มาตรฐานใหม่ อุตสาหกรรมไทย โรงงานขนาดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องตอกเสาเข็ม แค่อ้างว่าดินแข็งแรง มีฝรั่งควบคุมงาน เลยมีมาตรฐานสูง - ปตท. การันตี ไม่มีทรุดพัง แม้โรงแยกก๊าซใหม่ ไม่ตอกเสาเข็มทั้งหมด เพราะดินแข็งแรงมาก อีกทั้งมีฝรั่งควบคุมงาน เกาหลีก่อสร้างให้ ตรวจสอบเองแล้ว ทุกอย่างไม่ทรุดเลย แม้แต่เซ็นต์เดียว - http://khonmaptaphut.blogspot.com/2010/0 8/blog-post_16.html
วันนี้ (16 ส.ค.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยภายหลังการยื่นหนังสือ ต่อนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บริษัทปตท. และบริษัทสยามซีเมนต์ กรุ๊ป ว่า ทางเครือข่ายมีข้อเรียกร้องจำนวน 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. ต้องการให้ส.อ.ท.รวมถึงบริษัทในโครงการต่างๆ จำนวน 20 โครงการ พิจารณากระบวนการทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) ใหม่ เนื่องจากพบว่ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ผิดขั้นตอนตามเนื้อหาทางกฎหมาย โดยให้ผู้ประกอบการตอบกลับภายใน 7 วัน หากไม่ตอบกลับก็จะมีมาตรการอื่นๆ ตามมา ทั้งนี้ แนวทางการปฏิบัติตามเอชไอเอที่ไม่ถูกต้อง เช่น แจ้งสาธารณชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังความเห็นไม่ครบ 1 เดือน ไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน และเปิดเผยเอกสารไม่ถึง 15 วัน, มีการ จัดเวทีรับฟังความเห็นหลายโครงการพร้อมกัน ไม่สามารถเข้ารับฟังได้ครบ, เนื้อหาในเอกสารไม่ครบถ้วน เป็นต้น ซึ่งเหตุอาจเกิดจากความรีบร้อน เพราะมีภาระด้านการเงิน และการทำเอชไอเอเป็นกระบวนการใหม่ จึงอาจมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างทำให้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการทำเอชไอเอ สำหรับโครงการที่เข้าข่ายดังกล่าว เช่น โครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ของบริษัทปตท. โครงการโรงงานโอเลฟินส์และโครงการเปลี่ยนแปลงรายรายละเอียดโครงการโรงงานโอเลฟินส์ ของบริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ เป็นต้น สำหรับข้อเสนอที่ 2. ต้องการให้ส.อ.ท.ตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในการก่อสร้างอาคารโรงงานของทุกโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างละเอียด เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ไม่มั่นใจว่าการก่อสร้างโรงงานไม่ได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง เช่น ไม่มีการตอกเสาเข็ม เป็นต้น จึงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อจริง เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายที่ร้ายแรง ข้อ 3. เครือข่ายฯ ขอมีส่วนร่วมในโครงการ “เพื่อนชุมชน ความร่วมมือของกลุ่มอุตสาหกรรมไทย” เนื่องจากสนับสนุนแนวความคิดของโครงการดังกล่าว ซึ่งหลักการและเหตุผล รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ต้องการการมีส่วนร่วมร่วมจากทุกภาคส่วน และข้อ ที่ 4. ต้องการให้บริษัทที่ลงทุนอยู่ในพื้นที่ทำแผนการลงทุนให้ชัดเจนในระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้ชุมชนเห็นภาพ และสามารถรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ รวมถึงต้องการ ให้ทบทวนแผนขนยายการลงทุนภายใต้การพัฒนารูปแบบอื่น ไม่ใช่ขยายพื้นที่เพื่ออุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว
PTT ยันมาตรฐานความปลอดภัยสูงในการสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6
โครงการในพื้นที่รับน้ำ-น้ำท่วมเมื่อฝนตกหนัก - ข้อกำหนดก่อสร้างยอมให้ทรุดได้เพียง 1.0-1.5 เซ็นติเมตร แค่ความหนาของฝายาหม่อง อ้างเฉยไม่มีทรุดเลย เป็นไปได้...จริงหรือ!!!
ปตท.ยืนยันการก่อสร้างโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ได้มาตรฐาน ทั้งยังมีมาตรการเฝ้าระวังการทรุดตัวของฐานราก เล็งประชุมแจงต่อชุมชนเร็วๆนี้
นาย
การดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 และโรงแยกก๊าซอีเทนนั้น ปตท. ได้ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างตามหลักมาตรฐานทางวิศวกรรมที่กำหนดไว้อย่าง เคร่งครัด ภายใต้การตรวจสอบควบคุมโดยบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลกอย่างละเอียดในทุก ขั้นตอน โดยได้ดำเนินการวิเคราะห์ชนิดและลักษณะของดินในพื้นที่ตั้งโครงการตามหลัก วิศวกรรมฐานรากและปฐพีกลศาสตร์ พบว่าดินส่วนใหญ่โดยทั่วไป เป็นดินคุณภาพดีโดยเป็นดินแน่นถึงแน่นมาก และดินแข็งถึงแข็งมาก
- ข้อมูลถูกปกปิดระหว่างการก่อสร้าง ไม่มีวิศวกรสนามรู้ว่า ปตท. ใช้ค่ารับน้ำหนักดินสูงมากในการออกแบบ – อ่าน 7 ความเสี่ยงเรื่องการทรุดพัง http://airfresh-society.blogspot.com/2010/08/5.html
อย่างไรก็ดี ปตท. ยังได้ปรับปรุงคุณภาพดินและบดอัดเพิ่มเติม ตามหลักทางด้านวิศวกรรมฐานรากเพื่อความปลอดภัยสูงสุด และทำการทดสอบกำลังรับน้ำหนักของดินตามขั้นตอนอีกขั้นหนึ่ง ส่วนการออกแบบฐานรากเพื่อรองรับน้ำหนักโครงสร้าง ได้มีการตรวจสอบและลงนามรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจตามกฎหมาย และทั้งสองโครงการได้ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของ กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง
- ขออนุญาตกับเทศบาล โดยอ้างค่ารับน้ำหนักดินสูงมาก ฐานรากทั้งหมดจึงไม่จำเป็นต้องใช้เสาเข็ม – อ่านการทดสอบดิน ที่โรงงานข้างเคียงทำไมใช้เสาเข็มเจาะ และโรงงานอื่นๆ ตอกเสาเข็ม http://khonmaptaphut.blogspot.com/2010/08/blog-post_4078.html
นอกจากนั้น ปตท. ยังมีมาตรการเฝ้าระวังการทรุดตัวของฐานรากอย่างเป็นระบบ โดยผลจากการตรวจสอบค่าระดับอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มงานติดตั้งโครงสร้างฐานราก จนกระทั่งก่อสร้างแล้วเสร็จและยังคงทำการตรวจสอบอยู่จนถึงปัจจุบันนั้น ปรากฏว่า ไม่พบการทรุดตัวที่ผิดปกติแต่อย่างใด
- ไม่มีการตรวจสอบ ตั้งแต่ พ.ค. 2552 มีการซ่อมสร้างใหม่ และโรงแยกก๊าซอีเทน อยู่ระหว่างการทดสอบระบบมาโดยตลอด ในพื้นที่โรงแยกก๊าซที่ 6 มีการทดสอบระบบท่อ มาตั้งแต่ เดือน มกราคม 2553 ค่าทรุดตัวที่ยอมรับได้ 1.0-
ทั้งนี้ ปตท. จะจัดการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน เรื่องความปลอดภัยในการดำเนินโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 และโครงการโรงแยกก๊าซอีเทนของ ปตท. อีกครั้งในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ได้มีการชี้แจงกับชุมชน สื่อมวลชนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
สำหรับกรณี การจัดทำรายงานประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) ของโครงการกลุ่ม ปตท. ตามบัญชีรายชื่อ 76 โครงการนั้น ทุกโครงการต่างมีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการจัดทำรายงาน HIA ไม่ว่าโครงการดังกล่าวจะเข้าข่ายอยู่ในประเภทกิจการที่อาจมีผลกระทบอย่าง รุนแรงหรือไม่ก็ตาม โดยความคืบหน้าในปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายงาน HIA และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชุมชนรอบพื้นที่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
- จ้างคนไปฟัง แล้วคนที่ถูกจ้างไป จะบอกว่าไม่ดีไม่ถูก หรือ!!! มีคนส่วนเล็กๆแถลงแย้ง แต่ถูกจ้องราวกับจะถูกคนส่วนใหญ่รุมทึ้ง
"ปตท. ขอยืนยันว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานบนมาตรฐานระดับสากล ด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมส่วนรวม รวมทั้ง ยังให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากชุมชนรอบพื้นที่ เพื่อให้อุตสาหกรรมและชุมชนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน"
- ปตท. ควรนำค่าโฆษณา สร้างภาพ จำนวนมาก มาซ่อมสร้างโรงงานให้แข็งแรงก่อน จะดีกว่า การทิ้งความเสี่ยง ให้ทรุดพัง อาจระเบิดรุนแรงลุกลาม ก่อให้เกิดหายนะต่อชีวิต ชุมชน และโรงงานอื่นๆ จำนวนมาก
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น