นักวิชาการ เตือนคกก.สวล.ออกประกาศ 11 กิจการอุตสาหกรรม  ไม่ผ่านประชาพิจารณ์คนในพื้นที่ ส่อขัดรธน. อาจถูกภาคประชาชนฟ้องได้ จี้รัฐ  เร่งแก้ปัญหา ก่อนมลพิษท่วมระยอง เผยสถิติใหม่ ชาวระยองคว้าป่วยมะเร็งสูงอันดับ 1  ของประเทศ แถมพบสารก่อมะเร็งสูงต่อเนื่อง หอยแมลงภู่ กบ ดีเอ็นเอเปลี่ยน ส.ว.ประสาร  จี้ยืน 18  โครงการมาบตาพุดที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมรุนแรง
      
       รศ.ดร.  เรณู เวชรัชต์พิมล กรรมการสี่ฝ่ายแก้ปัญหามาบตาพุด  กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  มีมติที่จะออกประกาศประเภทอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน 11  ประเภท ลดลงจากข้อเสนอของคณะกรรมการสี่ฝ่ายฯ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่เสนอไว้ 18 ประเภท ว่า รัฐธรรมนูญไทย  ที่ไม่มีมาตราใดบัญญัติให้อำนาจหน่วยงานของรัฐ  ประกาศประเภทโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนได้  โดยที่ไม่ผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และหากภาครัฐไม่เร่งรีบแก้ไข  อาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกประชาชนฟ้องศาลปกครองตามวรรค 3 ของมาตรา 67  แห่งรัฐธรรมนูญไทยได้ ซึ่งการออกประกาศประเภทอุตสาหกรรมฯ  เป็นประกาศที่บังคับใช้ทั่วประเทศ เป็นการพิจารณาในภาพรวม  จึงไม่สามารถนำมาใช้กับโครงการที่จะสร้างในเขตควบคุมมลพิษในจ.ระยองได้ทั้งหมด
      
       “การพิจารณาอนุมัติให้โครงการในมาบตาพุดที่กำลังทำศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน(E/HIA)  เพื่อยื่นขออนุมัติจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อยู่ในขณะนี้  ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของรายงานผลการศึกษา E/HIA ให้มาก  โดยต้องทำให้ครบถ้วนตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ  และมุ่งเน้นการศึกษาผลกระทบต่อประชาชนกลุ่มเสี่ยง  มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพที่ชัดเจน”  รศ.ดร. เรณู กล่าว
      
       รศ.ดร. เรณู กล่าวต่อว่า  การที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม(ทส.)  ประกาศพื้นที่ 6 แห่งในจ.ระยองเป็นเขตควบคุมมลพิษ  เพราะศาลได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้วว่ามีสารพิษและมลพิษ  จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน  ซึ่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้เปิดเผยข้อมูลสถิติมะเร็งของประเทศ  พบว่าจ.ระยองมีสถิติมะเร็งเป็นอันดับ 1 ของประเทศ สะท้อนให้เห็นว่า  สารพิษที่มีฤทธิ์ทำลายสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA)  ยังมีอยู่มากในมาบตาพุดและพื้นที่อุตสาหกรรมในจ.ระยอง
      
       รศ.ดร.  เรณู กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า  พบสารก่อมะเร็งในอากาศสูงเกินมาตรฐาน ตั้งแต่ปี 2548-จนถึงปัจจุบัน เช่น  สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) 1,3-บิวทาไดอีน, เบนซีน และ 1,2- ไดคลอโรอีทเธน  ส่วนในน้ำทะเลและตะกอนดินใต้ท้องทะเลพบโลหะหนัก เช่น สารหนู แคดเมียม และปรอท  สูงเกินมาตรฐาน สิ่งที่บ่งชี้ถึงอันตรายจากสุขภาพชัดเจน คือ  ตรวจพบโลหะหนักในบ่อน้ำตื้นร้อยละ 50 และตรวจพบสารอินทรีย์ระเหยง่าย ร้อยละ 18  และผลการตรวจสุขภาพประชาชนพบว่าร้อยละ 34.8 พบโลหะหนักในเลือด  และพบอนุพันธ์ของสารเบนซีนร้อยละ 3.67 นอกจากนี้จากการตรวจหอยแมลงภู่ และกบ  ในพื้นที่มาบตาพุดเปรียบเทียบกับแหล่งอ้างอิงอื่น พบว่าหอยแมลงภู่และกบ  มีสารพันธุกรรม แตกหักสูงกว่าแหล่งอ้างอิงอื่น 4.85 และร้อยละ 72.24 เท่าตามลำดับ  จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงผลกระทบของสารพิษจากอุตสาหกรรมต่อชุมชนอย่างชัดเจน
  
 
    
       วันเดียวกัน  ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน  นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมว่า  จากกรณีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สวล.)เห็นชอบกับคณะกรรมการ 4 ฝ่าย  ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานได้มีมติให้ 11 โครงการมาบตาพุด จาก 18  โครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้ 18  โครงการที่จะต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพ  และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนถูกผลักออกไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง  โดยนัยยะสำคัญการเขี่ยออกจาก 7 โครงการออกไป จะกลายเป็นการนำเอาเกณฑ์ที่เหลือ 11  โครงการ ไปเป็นข้ออ้างในการการปลดล็อคให้ 76 โครงการ  ที่ศาลปกครองสั่งระงับโครงการเป็นการชั่วคราวใช่หรือไม่  เพราะในนี้จะมีโรงแยกก๊าซโรงที่ 6 ที่มาบตาพุด อยู่ในข่ายเข้าเกณฑ์ 7  โครงการที่ปลดล็อคออกไป คงจำได้ว่ารัฐมนตรีท่านหนึ่งได้เสนอ โครงการวอเตอร์กริด  คือโครงข่ายชลประทานขนาดใหญ่ในอีสาน มีงบประมาณ 2 แสนล้านบาท  ซึ่งเป็นโครงการในอนาคต ซึ่งใน 7 โครงการคือ ชลประทาน ผันน้ำจะครอบคลุมตรงนี้ด้วย  ซึ่งหมายความว่าไปเอื้อประโยชน์ให้ด้วย ซึ่งเป็นเมกกะโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นได้ยาก  ถ้าเกิดขึ้นก็จะล้มเหลว  เหมือนที่เคยทำมาในอดีต
      
       "ผมอยากให้คณะกรรมการ 4 ฝ่าย  ที่ได้พิจารณาและทำประชาพิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้ง 4 ภาค  และมีการโต้เถียงทางวิชาการกันอย่างเข้มข้นให้พิจารณาและยืน 18  โครงการที่มีความรุนแรง" นายประสาร กล่าว
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น