วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปาหี่ หน้าทีวี ... ถกปัญหาสิ่งแวดล้อมในกระดาษ - ทิ้งความจริง คนมาบตาพุด...เสี่ยงหายนะภัย

ทั้ง 3 คน ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน ที่จะไปถกกับรัฐบาล ออกทีวี รับรู้เรื่อง คนมาบตาพุดเสี่ยงตาย จากความมักง่ายของภาคอุตสาหกรรมฯ มานานมากแล้ว แต่ไม่ดำเนินการอะไร เพียงบอกว่า ปตท. เขาชี้แจงแล้ว ว่าดินแข็งแรง ทุกอย่างปลอดภัยดี โรงงานลงทุนมหาศาล โดยมีมาตรฐานสูง ไม่ปล่อยให้ไฟไหม้ระเบิดง่ายๆ หรอก อีกทั้งอ้างว่า ถ้าตรวจสอบแล้ว จะต้องตรวจไปทั้งหมด มันจะเป็นเรื่องใหญ่ - ในฐานะผู้แทนประชาชน กลัวว่าโรงงานจะต้องหยุด เพื่อตรวจสอบ แล้วถึงวันนี้ จะไปถกปัญหาอะไร หน้าจอทีวี
คกก. 4 ฝ่าย มามาบตาพุดทีไร ก๊าซรั่วไล่คณะผู้คนที่ไม่จริงใจ จนชาวบ้านเดือดร้อน - ภาครัฐ จัดฉากพบปะประชาชนใกล้ชิดปัญหา ทั้งที่ชาวบ้านในหนองแฟบ ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส แต่ตัวแทนภาคประชาชน อ้างว่า พูดแล้วคุยแล้ว ... สุดท้ายกลืนน้ำตากันอยู่ทุกวัน
เรื่องความเสี่ยงหายนะภัย ทั้งกอร์ศักดิ์ทั้งสาธิต รู้เรื่องกันหมด แต่ไม่ทำอะไร สว.สาย บอกเรื่องมันใหญ่มาก แต่กับทอดทิ้งให้คนมาบตาพุด เสี่ยงตาย เลือดเย็นกันจัง ... !!!
คมชัดลึก : รัฐบาลเปิดเวทีถกปัญหามาบตาพุดผ่านช่อง 11 วันที่ 20 ตุลาคมนี้ นายกฯ นำทีมฝ่ายรัฐบาล ส่วน "สุทธิ" มาพร้อมตัวแทนภาคประชาชนอีก 2 คน หวังใช้เวทีหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ แก้ความเข้าใจที่ยังไม่ตรงกัน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ตุลาคม 2553 รัฐบาลจะจัดเวทีเสวนาออกรายการโทรทัศน์ หรือ ดีเบต เรื่องการแก้ไขปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องประกาศกิจการรุนแรงระหว่างรัฐบาล ภาคประชาชน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 หรือเอ็นบีที ตั้งแต่เวลา 20.00-21.30 น. โดยเบื้องต้นฝ่ายรัฐบาลได้กำหนดตัวบุคคลที่จะร่วมเวทีดีเบตจำนวน 3 คน ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ส่วนตัวแทนจากภาคประชาชน ได้แก่ นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อปรับปรุงรายการโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร

นายสุทธิ กล่าวว่า ในส่วนของตัวแทนภาคประชาชนอาจจะมีการหารือกันนอกรอบก่อน ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ เพราะอยากเห็นการหารือครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสาธารณะ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันมากกว่า ไม่อยากเห็นการออกทีวีถกเถียงกัน เหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร แต่สุดท้ายก็ไม่มีข้อยุติ โดยประเด็นที่จะต้องหยิบมาหารือผ่านเวทีเสวนา เช่น กระบวนการพิจารณาเพื่อกำหนดพื้นที่โครงการที่อาจก่อผลกระทบรุนแรง ส่วนประเภทโครงการรุนแรง ยังมีเรื่องการกำหนดขนาดกับบางกิจการที่ยังแขวนไว้ เป็นต้น

“ผมไม่กังวลว่าจะเสียเปรียบในการหารือรอบนี้ เพราะคิดว่าเป็นรูปแบบการทำงานใหม่มากกว่า ทั้งไม่ได้ต้องการสร้างความขัดแย้งกับรัฐบาล แต่จะพูดเชิงสร้างสรรค์มากกว่า ข้อไหนที่เห็นตรงกันก็ให้สาธารณชนรับทราบ แต่ที่ยังเห็นต่างก็จะไม่ถกเถียง โดยจะดึงมุมที่เห็นต่างกับรัฐบาลออกมา และรัฐบาลต้องชี้ช่องให้เห็นทางออก” นายสุทธิ กล่าว

ด้าน น.ส.สุชญา อัมราลิขิต ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สผ. กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการอย่างน้อย 6 โครงการ ได้ส่งรายงานประเมินผลกระทบสุขภาพในรายงานอีไอเอ (อีเอชไอเอ) ฉบับสมบูรณ์ให้แก่ สผ.พิจารณาแล้ว โดยเป็นโครงการด้านปิโตรเคมี 1 แห่ง และท่าเทียบเรือ 1 แห่ง โดย สผ.เตรียมนัดประชุม คชก.เพื่อพิจารณาโครงการรุนแรงในมาบตาพุด นัดแรกวันที่ 15 ตุลาคมนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น