สมาคมต้านโลกร้อน ยื่นศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเพิ่ม 3 ประเด็นร่วมวงเบรกโครงการมาบตาพุด ชาวบ้านลุยต่อ 4 ต.ค.ยื่นศาลขอคำสั่งถอนมติครม.11 ประเภทกิจการรุนแรง
เมื่อเวลา 10.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน พร้อมชาวบ้านมาบตาพุด จ.ระยอง เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2553 ซึ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตที่ออกให้กับกิจการโครงการพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยยก3 ประเด็นหลักต่อสู้ ประเด็นแรกขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดี ดำเนินการให้ครบถ้วนตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 67 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 และ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ 2550 ประเด็นที่ 2 ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีเพิกถอนใบอนุญาตโครงการ หรือกิจกรรมที่เข้าข่ายเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่อยู่ใรพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง และพื้นที่ใกล้เคียง จ.ระยอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ โดยขอให้ระงับการดำเนินกิจกรรมใดๆ ในปัจจุบัน สำหรับโครงการหรือกิจกรรมหรือกิจการที่ผู้ขออนุญาต หรือเจ้าของโครงการ ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2550 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาขอให้ยุติเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะได้ศึกษาอีไอเอให้ครบถ้วนตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 67 วรรคสอง ประเด็นที่ 3 ขอให้ศาลปกครองสูงสุด ได้โปรดกลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยไม่นำประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เรื่องกำหนดประเภท ขนาดและวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2553 ฉบับลงวันที่ 31 ส.ค.2553 มาประกอบในคำพิพากษา นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขั้นตอนพิจารณาคำอุทธรณ์จะนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยากให้พิจารณาถึงความเชื่อมโยงของมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับโครงการรุนแรง 11 ประเภทกิจการที่เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับยโครงการที่เข้าข่ายใน 11 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 ต.ค.นี้ เวลา 11.00 น. ทางกลุ่มชาวบ้านมาบตาพุด จะนัดรวมตัวกันเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้เพิกถอน มติ ครม.เกี่ยวกับโครงการรุนแรง 11 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม และเอาผิดกับ 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทส. รวมถึง ครม. และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
"วรรณรัตน์"เคลียร์ "ชัยวุฒิ"แทงกั๊กออกใบอนุญาตโรงแยกก๊าซฯ 6 แล้ว คาดออกใบอนุญาตได้ภายในสัปดาห์หน้า และเดินเครื่องได้ใน 1 เดือน
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมชะลอการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยให้เหตุผลว่าจะต้องรอให้มีการพิจารณาพร้อมกันในส่วนของโครงการที่เหลือ แต่หลังจากที่ได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว
โดยขณะนี้ทาง นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้โดยเร็ว คาดว่าจะออกได้ภายในสัปดาห์นี้ และจะเดินเครื่องได้ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ โดยระยะแรกจะยังไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มที่
“กระทรวงพลังงานได้ประสานและทำความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว และได้ชี้แจงว่าเรื่องโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และยืนยันว่าการออกใบอนุญาตไม่ได้ล่าช้า โดยกระทรวงอุตสาหกรรมบอกว่าจะสามารถออกใบอนุญาตให้ได้สัปดาห์นี้ ทำให้โครงการด้านพลังงานเดินหน้าต่อได้ยกเว้นโครงการของบริษัท ทีโอซี ไกลคอล โครงการเดียวที่เข้าข่ายกิจการรุนแรง โดยยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง”
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจโครงการด้านพลังงานที่ทั่วประเทศที่อยู่นอกเหนือ 76 โครงการในมาบตาพุด เพื่อดูว่ามีโครงการใดบ้างที่เข้าข่ายประเภทกิจการรุนแรง และดูว่าโครงการนั้นจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ รวมทั้งมีอุปสรรคในการดำเนินการอะไรบ้าง ขณะเดียวกันก็เฝ้าระวังใม่ให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอีกด้วย
สำหรับกรณีที่เครือข่ายชุมชนภาคตะวันออกจะนัดชุมนุมปิดล้อมนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้เพื่อแสดงท่าทีคัดค้านการประกาศ 11 ประเภทกิจการรุนแรง มองว่า เป็นการแสดงออกเป็นไปตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น