วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เทศบาลเมืองมาบตาพุดมีชุมชนย่อย จำนวน 31 ชุมชน

ประชากร

จากการตรวจสอบข้อมูลจำนวนประชากรและบ้าน จากทะเบียนราษฎรพบว่า เขตเทศบาล เมืองมาบตาพุด มีประชากรทั้งสิ้น 43,892 คน แยกเป็น

- ชาย

22,133

คน

- หญิง

21,759

คน

- จำนวนครัวเรือน

31,531

ครัวเรือน

- มีความหนาแน่นของประชากรประมาณ

261

คน/ตารางกิโลเมตร

ข้อมูลประชากรในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด

ลำดับที่

ตำบล

จำนวน ครัวเรือน

จำนวนประชากร

ร้อยละของ ครัวเรือนทั้งหมด

ร้อยละของประชากรทั้งหมด

1

มาบตาพุด

14,002

19,289

44.41

43.95

2

ห้วยโป่ง

9,229

13,621

29.27

31.03

3

เนินพระ

5,497

7,814

17.43

17.80

4

ทับมา

1,049

1,209

3.33

2.76

5

มาบข่า

1,754

1,959

5.56

4.46

รวม

31,531

43,892

100

100

หมายเหตุ: ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2551
ที่มา: งานทะเบียนราษฎร สำนักปลัดเทศบาล
ชุมชน เทศบาลเมืองมาบตาพุดมีชุมชนย่อย จำนวน 31 ชุมชน ดังนี้

ชุมชน

จำนวน ครัวเรือน

จำนวน ประชากร

ประชากร

ชุมชน

จำนวน ครัวเรือน

จำนวน ประชากร

ประชากร
ชาย หญิง ชาย หญิง
1.ชุมชนหนองแฟบ 1,297 2,339 1,069 1,270 17.ชุมชนเขาไผ่ 692 826 425 401
2.ชุมชนตลาดห้วยโป่ง 724 1,771 947 824 18.ชุมชนอิสลาม 1,022 1,598 803 795
3.ชุมชนมาบข่า-สำนักอ้ายงอน 935 1,320 699 621 19.ชุมชนบ้านบน 1,452 2,040 1,075 965
4.ชุมชนโขดหิน 2,698 3,655 1,899 1,756 20.ชุมชนบ้านล่าง 1,029 1,758 894 864
5.ชุมชนบ้านพลง 768 825 428 397 21.ชุมชนห้วยโป่งใน 1 815 2,020 996 1,024
6.ชุมชนเกาะกก-หนองแตงเม 801 1,065 598 467 22.ชุมชนห้วยโป่งใน 2 703 1,121 565 556
7.ชุมชนวัดมาบตาพุด 1,776 1,527 732 795 23.ชุมชนห้วยโป่งใน-สะพานน้ำท่วม 761 1,220 686 534
8.ชุมชนคลองน้ำหู 497 766 341 425 24.ชุมชนหนองบัวแดง 435 844 389 455
9.ชุมชนกรอกยายชา 390 672 344 328 25.ชุมชนตลาดมาบตาพุด 1,035 2,431 1,111 1,339
10.ชุมชนมาบชลูด 1,309 2,181 1,101 1,080 26.ชุมชนหนองหวายโสม 1,270 1,989 786 732
11.ชุมชนวัดโสภณ 286 1,146 577 569 27.ชุมชนชากลูกหญ้า 1,994 2,864 1,525 1,320
12.ชุมชนหนองน้ำเย็น 438 606 354 252 28.ชุมชนซอยคีรี 120 710 345 365
13.ชุมชนซอยร่วมพัฒนา 2,001 1,872 979 893 29.ชุมชนมาบข่า-มาบใน 340 1,250 650 600
14.ชุมชนสำนักกะบาก 169 522 232 290 30.ชุมชนเนินพยอม 532 1,042 485 557
15.ชุมชนมาบยา 1,023 1,426 728 698 31.ชุมชนซอยประปา 217 716 313 403
16.ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ 1,548 2,109 1,110 999

รวมทั้งสิ้น 31 ชุมชน

29,077

46,159

23,079

22,609
หมายเหตุ : ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2551
ที่มา : กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองมาบตาพุด

ด้านการเมือง - การบริหาร โครงสร้างและอำนาจหน้าที่

นายกเทศมนตรี มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนในเขตเทศบาลโดยตรง อยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี ทำหน้าที่บริหารราชการของเทศบาลตามกฎหมาย นายกเทศมนตรีแต่งตั้งรองนายกเทศมนตรี ซึ่งมิใช่สมาชิกสภาเทศบาลเป็นผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการของเทศบาล จำนวน 3 คน

สมาชิกสภาเทศบาล ทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย สมาชิกสภาเทศบาลที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนในเขตเทศบาล จำนวน 18 คน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี

สำหรับข้าราชการประจำของเทศบาลมีปลัดเทศบาลเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรองปลัดเทศบาลเป็นผู้ช่วย โดยแบ่งส่วนการบริหารออกเป็นส่วนการงานต่าง ๆ ดังนี้

1. สำนักปลัดเทศบาล 5. กองวิชาการและแผนงาน
2. สำนักการช่าง 6. กองการศึกษา
3. สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 7. กองช่างสุขาภิบาล
4. สำนักการคลัง 8. กองสวัสดิการสังคม
ข้อมูลอัตรากำลังของพนักงานเทศบาล

หน่วยงาน

จำนวนพนักงานเทศบาลแยกตามระดับ

รวม

ลูกจ้าง

1

2

3

4

5

6

7

8

9

ค.ศ.2

ประจำ

ตามภารกิจ

ทั่วไป

รวม

สำนักปลัดเทศบาล

7

8

6

6

8

6

1

-

2

-

44

17

25

30

72

สำนักการช่าง

1

5

5

3

5

9

5

2

1

-

36

18

36

52

106

สำนักการสาธารณสุขฯ

1

1

4

2

3

8

12

4

-

-

35

21

22

105

148

สำนักการคลัง

1

3

10

4

6

8

1

2

1

-

36

4

1

8

13

กองวิชาการและแผนงาน

-

5

4

7

-

1

1

-

-

-

18

3

4

11

18

กองการศึกษา

-

2

2

3

-

2

3

1

-

1

14

8

15

15

38

กองช่างสุขาภิบาล

-

1

3

2

1

4

-

-

-

-

11

4

13

7

24

กองสวัสดิการสังคม

1

2

3

1

-

2

-

1

-

-

10

1

3

7

11

รวม

11

27

37

28

23

40

23

10

4

1

204

76

119

235

430

หมายเหตุ : ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2551
ที่มา : สำนักปลัดเทศบาลเมืองมาบตาพุด
ศาสนา ภายในเทศบาลเมืองมาบตาพุดมีวัดในพระพุทธศาสนา จำนวน 11 แห่ง ดังนี้

1. วัดโสภณวนาราม

7. วัดหนองแฟบ

2. วัดตากวน

8. วัดห้วยโป่ง

3. วัดมาบชลูด

9. วัดเขาไผ่

4. วัดชากลูกหญ้า

10. วัดกรอกยายชา

5. วัดโขดหิน

11. วัดมาบตาพุด

6. วัดใหม่ซอยคีรี

ภายในเทศบาลเมืองมาบตาพุดมีมัสยิดของอิสลาม จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
1. มัสยิดญามีอุ้ลมุบตาดี 2. มัสยิดอิมาดุดดีน
3. สมาคมอิสลามมูฮัมมาดียะห์ 4. มัสยิดนูรุ้ลฮิดายะห์
ภายในเทศบาลเมืองมาบตาพุดมีศาลเจ้า จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. ศาลเจ้ามาบตาพุด 3. ศาลเจ้าห้วยโป่ง
2. ศาลเจ้าแม่จันเท

ภายในเทศบาลเมืองมาบตาพุดมีคริสตจักร จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ คริสตจักรระยองเมโธรดิสท์

วัฒนธรรม

ประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญ

วันขึ้นปีใหม่ เดือนมกราคม
กิจกรรม จัดให้มีการทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง บริเวณสนามโรงเรียน บ้านมาบตาพุด
วันสงกรานต์ เดือนเมษายน
กิจกรรม จัดพิธีรดน้ำอวยพรผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
แห่เทียนพรรษา เดือนกรกฎาคม
กิจกรรม จัดให้มีการหล่อเทียนพรรษาและเทียนพรรษาเพื่อให้ประชาชนไปทำบุญ และถวายเทียนแก่วัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาล
ลอยกระทง เดือนพฤศจิกายน
กิจกรรม จัดให้มีการประกวดกระทงและนางนพมาศ

การศึกษา

เทศบาลเมืองมาบตาพุด มีสถานศึกษาอยู่ในพื้นที่ของเทศบาล ทั้งหมด 16 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 5 แห่ง ดังนี้

1. โรงเรียนสังกัดเทศบาล จำนวน 1 แห่ง คือ โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุด

2. โรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ จำนวน 7 แห่ง คือ

2.1 โรงเรียนบ้านมาบตาพุด 2.5 โรงเรียนวัดตากวน
2.2 โรงเรียนวัดห้วยโป่ง 2.6 โรงเรียนวัดชากลูกหญ้า
2.3 โรงเรียนวัดโขดหิน 2.7 โรงเรียนบ้านหนองแฟบ
2.4 โรงเรียนวัดมาบชลูด

3. โรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา จำนวน 2 แห่ง คือ

โรงเรียนระยองวิทยาคม นิคมอุตสาหกรรม
โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร

4. โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 3 แห่ง คือ

4.1 โรงเรียนมณีวรรรณวิทยา 4.3 โรงเรียนศิริพรระยอง
4.2 โรงเรียนวุฒินันท์

5. วิทยาลัยสังกัดกรมอาชีวศึกษา จำนวน 2 แห่ง คือ

5.1 วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด
5.2 วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดห้วยโป่ง 2. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดมาบชลูด 3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านหนองแฟบ 4. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองมาบตาพุดชุมชนมาบข่า 5. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดตากวน

กีฬา / นันทนาการ / พักผ่อน

เทศบาลเมืองมาบตาพุดมีสถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ ดังนี้

1. สวนสาธารณะมาบชลูด 2. สวนสาธารณะซอยประปา 2 3. สวนสาธารณะลับแล 4. สวนสาธารณะมาบใน 5. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติราชทัณฑ์ (อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง) 6. หาดสนกระซิบ 7. หาดสุชาดา

สาธารณสุข

ภายในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด มีสถานบริการด้านสาธารณสุข ดังนี้

โรงพยาบาล

• รัฐบาล 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมาบตาพุด เตียงคนไข้ 30 เตียง • เอกชน 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมงกุฎระยอง เตียงคนไข้ 100 เตียง • คลินิก จำนวน 16 แห่ง • อื่น ๆ (ทันตแพทย์คลินิก) 3 แห่ง

ศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาลเมืองมาบตาพุด จำนวน 6 แห่ง ได้แก่

• ศูนย์บริการสาธารณสุขเนินพยอม • ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน • ศูนย์บริการสาธารณสุขเกาะกก • ศูนย์บริการสาธารณสุขมาบข่า • ศูนย์บริการสาธารณสุขโขดหิน • สถานีอนามัยมาบตาพุด

ข้อมูลอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และจำนวนผู้รับบริการรักษาพยาบาล

ศูนย์บริการ

อัตรากำลังเจ้าหน้าที่

จำนวนผู้รับบริการรักษา

ทันตแพทย์

พยาบาล

จพง.การคลัง/

ลูกจ้างประจำ/

พยาบาล

จพง.การเงิน

พนักงานจ้าง

(ราย)

1.เนินพยอม

2

3

1

11

21,741

2.ตากวน

-

1

1

5

6,111

3.เกาะกก

-

2

-

3

3,015

4.มาบข่า

-

2

-

6

3,681

5.โขดหิน

-

2

-

8

5,487

หมายเหตุ : ข้อมูลปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548 - กันยายน 2549)
ที่มา : ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด

สาเหตุการป่วย (กลุ่มโรค) 5 อันดับโรค ของศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 5 แห่ง มีดังนี้

1. โรคระบบทางเดินหายใจ 2. ระบบไหลเวียนเลือด 3. โรคระบบย่อยอาหาร รวมโรคในช่องปาก 4. โรคระบบกล้ามเนื้อรวมโครงร่างและเนื้อยึดเสริม 5. โรคผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

หมายเหตุ : ข้อมูลปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548 - กันยายน 2549)
ที่มา : ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด

การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

เทศบาลเมืองมาบตาพุดจัดให้มีการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น อบรมให้ความรู้ด้านอัคคีภัย แก่โรงงานอุตสาหกรรม อาสาสมัครของชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ระงับเหตุอัคคีภัย อุทกภัย รถบรรทุกสารเคมี พลิกคว่ำและอุบัติเหตุบนเส้นทางจราจร เป็นต้น โดยมีสถิติการปฏิบัติหน้าที่ในรอบปีที่ผ่านมา (1 ม.ค.- 31 ธ.ค. 2550) ดังนี้

- อุบัติเหตุรถยนต์ (ช่วยเหลือกู้ภัย)

จำนวน

5

ครั้ง

- เพลิงไหม้หญ้า

จำนวน

209

ครั้ง

- เพลิงไหม้โรงงาน

จำนวน

8

ครั้ง

- เพลิงไหม้อาคาร/บ้านเรือน

จำนวน

7

ครั้ง

- เพลิงไหม้รถยนต์

จำนวน

7

ครั้ง

- บริการน้ำบ้านเรือนประชาชน

จำนวน

694

ครั้ง

- อบรมดับเพลิงเบื้องต้นในเขตเทศบาล

จำนวน

55

ครั้ง

- ร่วมซ้อมแผนอพยพให้กลุ่มโรงงาน

จำนวน

46

ครั้ง

- งมศพคนจมน้ำ

จำนวน

5

ครั้ง

- ดูดน้ำท่วมขัง

จำนวน

27

ครั้ง

- เพลิงไหม้แนวท่อก๊าซ

จำนวน

1

ครั้ง

- เพลิงไหม้หม้อแปลงไฟฟ้า

จำนวน

4

ครั้ง

- เพลิงไหม้ถังแก๊ส

จำนวน

1

ครั้ง

- ตัดต้นไม้ที่กีดขวาง

จำนวน

6

ครั้ง

รวมทั้ง จัดให้มีการฝึกซ้อมทุกสัปดาห์ ตามระเบียบปฏิบัติประจำวัน ทุกวันพุธ และวันศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น.

การอำนวยการเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

เทศบาลเมืองมาบตาพุด มีสถานีดับเพลิง 2 สถานี มีอุปกรณ์และบุคลากร ดังนี้

จำนวนรถดับเพลิง แยกตามประเภท

- รถดับเพลิงชนิดบันไดเลื่อนอัตโนมัติ จำนวน 1 คัน ความจุน้ำ 1,000 ลิตร เคมีโฟม 1,000 ลิตร ความสูง 30 เมตร - รถยนต์ดับเพลิงชนิดเคมีโฟม จำนวน 4 คัน ความจุน้ำ 6,000 ลิตร เคมีโฟม 6,000 ลิตร ผงเคมีแห้ง 250 กิโลกรัม - รถยนต์ปิคอัพสายตรวจ อปพร. จำนวน 1 คัน - รถยนต์บรรทุกเครื่องหาบหามปิกอัพ จำนวน 2 คัน - รถยนต์ปิคอัพสายตรวจ งานป้องกันฯ จำนวน 1 คัน - รถยนต์ปิกอัพตรวจการณ์เคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 คัน - รถ/อุปกรณ์อื่น ๆ · รถบรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ ความจุ 5,000 ลิตร จำนวน 5 คัน · รถบรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ ความจุ 10,000 ลิตร จำนวน 2 คัน · รถบรรทุกน้ำดับเพลิงอเนกประสงค์ ความจุ 12,000 ลิตร จำนวน 2 คัน · รถยนต์กู้ภัยขนาดกลางพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน · เครื่องช่วยหายใจชนิดถังเหล็ก ขนาด 300 บาร์ จำนวน 17 เครื่อง · เครื่องช่วยหายใจชนิดคาร์บอน ขนาด 300 บาร์ จำนวน 16 เครื่อง · ชุดป้องกันความร้อน 2,000 F จำนวน 13 ชุด · ชุดป้องกันความร้อน (NOMAX) 360 F จำนวน 20 ชุด · รถบรรทุกโฟมชนิดลากจูง ขนาดความจุ 2,000 ลิตร จำนวน 2 คัน · ชุดประดาน้ำ จำนวน 2 ชุด · ชุดป้องกันสารเคมี LEVEL A จำนวน 5 ชุด · เครื่องปั๊มลมพร้อมสายลมและอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 1 ชุด · เครื่องอัดก๊าซไนโตรเจนสำหรับเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง พร้อมอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 1 ชุด · เครื่องอัดอากาศสำหรับเครื่องช่วยหายใจแรงดันสูงแบบประจำที่ จำนวน 1 ชุด · เครื่องค้นหาและวัดความลึกใต้น้ำ (ซาวเดอร์) จำนวน 1 เครื่อง

เครื่องสูบน้ำดับเพลิง ชนิดหาบหาม จำนวน 14 เครื่องแยกเป็น

- ขนาด 13 แรงม้า จำนวน 4 เครื่อง - ขนาด 33 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง - ขนาด 40 แรงม้า จำนวน 4 เครื่อง - ขนาด 55 แรงม้า จำนวน 4 เครื่อง

เจ้าหน้าที่ป้องกันฯ จำนวน 57 คน แยกเป็น

- เจ้าพนักงาน/เจ้าหน้าที่ป้องกันฯ จำนวน 16 คน
- ลูกจ้างประจำ จำนวน 14 คน
- พนักงานจ้างตามภารกิจ จำนวน 17 คน
- พนักงานจ้างทั่วไป จำนวน 10 คน

แหล่งน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง จากแหล่งน้ำธรรมชาติ 7 แห่ง ดังนี้

- ข้างทางหลวงสาย 36 ตรงข้ามบริษัท มหากิจรับเบอร์ ประมาณ 8,000 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 11 ก.ม. - สระไทยรัฐ ประมาณ 36,000 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 6 ก.ม. - ฝายศาลาบ้านบน ประมาณ 2,500 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 5 ก.ม. - ฝายหนองหวายโสม ประมาณ 4,000 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 3 ก.ม. - คลองน้ำหู ประมาณ 9,000 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 7 ก.ม. - สระน้ำเมืองใหม่มาบตาพุด ประมาณ 5,000 ลบ.ม. ระยะห่างสถานีดับเพลิง 5 ก.ม. - บ่อน้ำธรรมชาติ หน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประมาณ 12 ลบ.ม.

แผนการฝึกซ้อม มีการแบ่งแผนฉุกเฉินตามระดับความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับ คือ

ภาวะฉุกเฉินระดับที่ 1

เป็นภัยขนาดเล็กในโรงงาน หรือตามเส้นทางขนส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของโรงงานที่เกิดเหตุหรือโรงงานใกล้เคียงจุดบนเส้นทางที่เกิดเหตุ จากการขนส่งสามารถควบคุมได้

ภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2

เกินความสามารถของโรงงานที่เกิดเหตุ จะต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก เช่น กองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (กอ.ปพร.) อำเภอ กิ่งอำเภอ เทศบาลท้องที่หรือโรงงานข้างเคียง

ภาวะฉุกเฉินระดับที่ 3

กองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนท้องที่ ไม่สามารถระงับภัยและควบคุมสถานการณ์ได้ จะต้องขอความช่วยเหลือจาก กอ.ปพร. จังหวัดระยอง จังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งหน่วยสนับสนุนจากภายนอกระดับอื่นๆ ฯลฯ

ได้ฝึกซ้อมแผนระดับ 1 และ 2 ร่วมกับโรงงานและสถานีประกอบการอยู่เป็นประจำ เฉลี่ย 2 – 3 ครั้ง/เดือน ส่วนการซ้อมแผนระดับ 1 – 3 ได้มีการฝึกซ้อม ดังนี้

ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2544 เวลา 9.00 – 12.00 น. โดยบริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) ซ้อมแผนฯ เหตุการณ์รั่วไหลและเพลิงไหม้บริเวณแนวท่อก๊าซ ถนนทางหลวงหมายเลข 36 ตำบลทับมา

ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2544 ซ้อมแผนเพลิงไหม้ภายในโรงกลั่นน้ำมัน TPI บริษัท อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI)

ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2544 ซ้อมแผนดับเพลิงถังน้ำมันดิบภายในโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทอัลลาย แอนซ์ รีไฟน์นิ่ง จำกัด (ARC) ริมถนนสายตากวน – หาดทรายทอง ต.มาบตาพุด

ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2546 ซ้อมแผนเพลิงไหม้ถังน้ำมันในบริษัท ระยอง โอเลฟินส์ จำกัด และเกิดอุบัติเหตุจากรถบรรทุกขนส่งน้ำมัน และสารเคมีบริเวณ ถ.ไอ – 2 ตัดกับ ถ.ไอ – 8 ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สมมุติสถานการณ์เกิดใกล้เคียงกัน)

ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2548 ซ้อมแผนฉุกเฉินกรณีเพลิงไหม้ถังน้ำมันร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โรงแยกก๊าซ ปตท. มาบตาพุด

ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2548 ซ้อมร่วมกับ บริษัทวินิไทย จำกัด (มหาชน)

ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2549 ซ้อมแผนเพลิงไหม้ถังน้ำมันในบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โรงงานก๊าซธรรมชาติระยอง

ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2549 ซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัย ร่วมกับบริษัท โกลบอล พอร์ต แมนเนจเม้นท์ จำกัด

ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2550 ซ้อมแผนฉุกเฉินกรณีเพลิงไหม้ และสารเคมีรั่วไหล ร่วมกับบริษัท IRPC

อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลเมืองมาบตาพุด อบรมทั้งหมด 6 รุ่น มีสมาชิกที่ผ่านการฝึกอบรม 753 คน

หมายเหตุ : ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2551
ที่มา : งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รูปหลักฐาน ... โรงงานต้นเหตุสารคลอรีนรั่วไหล ทรุดพัง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. พ.ต.ท.บุญยก ไชยวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อาคม บุญแสง สารวัตรเวร และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน กองกำกับการ สถานีตำรวจภูธรจ.ระยอง นายวีระศักดิ์ เพิ่มแพงพันธ์ ผอ. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก มาบตาพุด พร้อมด้วย นาย Mata Pathak ประธานบริษัท อดิตยา เบอร์ร่า เคมิคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบบริเวณถังเก็บสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ หรือสารคลอรีน ที่เกิดทรุดตัวจนทำให้ถังไฟเบอร์กลาสแตก เป็นเหตุคลอลีนที่มีจำนวนกว่า 80 ตันไหลทะลักออกมา และมีกลิ่นฟุ้งกระจาย ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบ พบว่าที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณที่ตั้งถังสารเคมี เป็นถังสีเหลือง ขนาดความจุ 100 ลบ.ม. สูง 10 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร จำนวน 3 ถังตั้งเรียงกัน โดยถังที่เกิดเหตุ มีตัวหนังสือ ข้างถัง T - 1806 C sodiumhypochlorite volume 100 m3 มีสภาพล้มแตก มีน้ำสีเหลืองไหลเจิงนองทั่วพื้น กลิ่นเหมือนไฮเตอร์ ยังคลุ้งกระจาย โดยรอบที่ตั้งถังทั้งหมดมีรั้วกำแพงล้อมรอบ พบฐานที่ตั้งถังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเหล็ก สภาพหักทำให้ถังเอียง ล้ม จนแตกเนื่องจากตัวถังทำด้วย ไฟเบอร์กลาสสภาพเก่า นายฐากูร เกลี้ยงสุวรรณ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายความปลอดภัย/สิ่งแวดล้อม และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ คนงานกำลังถ่ายสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ จากท่อลงในถังที่เกิดเหตุ ได้ประมาณ 80 ลบ.ม. ซึ่งตามปกติจะต้องบรรจุ 90 ลบ.ม. แต่เกิดเหตุ ฐานทรุดตัวทำให้ถังเอียงและล้มแตก สารเคมีรั่วออกมา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ได้รีบสกัดการรั่วไหล และการแพร่กระจายโดยฉีดสเปรย์น้ำ และใช้ปูนขาวโรยเพื่อให้กลิ่นเจือจาง ด้านนายวีระศักดิ์ เพิ่มแพงพันธุ์ ผู้อำนวยการนิคมเหมราชตะวันออก ยืนยันถึงการควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว และได้กำชับเจ้าหน้าที่ โรงงานที่เกิดเหตุ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รายงานสาเหตุ ผลกระทบ และการเยียวยา ผู้บาดเจ็บ รวมถึงโรงงานโดยรอบ ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด และสั่งระงับขบวนการผลิต(หยุดเครืองจักร) พร้อมหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก และยอดผู้ที่ได้รับผลกระทบที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 8 แห่ง มีจำนวน 299 คน ขณะนี้ยังให้การรักษาต่อ จำนวน 82 คน ทีมหน่วยสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT– C) ได้ออกปฏิบัติงานในพื้นที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน เพื่อค้นหาผู้ป่วยและดูแลสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

12 มิ.ย. 53 แผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์ - เกิดที่หมู่เกาะ นิโคบาร์ มหาสมุทร อินเดีย

มีการเตือนภัย สึนามิ ระดับสีส้ม นักวิทยาศาสตร์ไทย หน้าแตก ที่ออกมายืนยันว่าจะไม่มีแผ่นดินไหว แต่เกิดจริงๆ แถมใกล้ประเทศไทยมาก กลางดึกวันที่ 12 มิ.ย. 53 ถ้าเกิดสึนามิรุนแรง บาปคงติดตัวไปจนตาย เพราะออกมาสลายคำแจ้งเตือนของ บางฝ่าย พร้อม ดร.สมิท ออกมาย้ำๆ ว่าจะเกิด ประมาณ 4-5 ทุ่ม ก้อเกิดจริงๆ

City map

7.5 ริกเตอร์ อยู่ลึกลงไป 35 กิโลเมตร

5.3 ริกเตอร์ อยู่ลึกลงไป 19 กิโลเมตร

Earthquake Details

Magnitude 7.5
Date-Time
Location 7.748°N, 91.938°E
Depth 35 km (21.7 miles) set by location program
Region NICOBAR ISLANDS, INDIA REGION
Distances 155 km (95 miles) W of Mohean, Nicobar Islands, India 440 km (275 miles) SSW of Port Blair, Andaman Islands, India 1155 km (710 miles) SW of BANGKOK, Thailand 2775 km (1720 miles) SE of NEW DELHI, Delhi, India
Location Uncertainty horizontal +/- 6.4 km (4.0 miles); depth fixed by location program
Parameters NST=110, Nph=110, Dmin=619.7 km, Rmss=1.18 sec, Gp= 58°, M-type=centroid moment magnitude (Mw), Version=8
Source
  • USGS NEIC (WDCS-D)
Event ID us2010xkbv

http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/recenteqsww/Quakes/us2010xkbv.html

http://neic.usgs.gov/neis/eq_depot/2010/eq_100612_xkbv/neic_xkbv_w.html

และที่อื่นๆ ที่เกิดขึ้น

MAP 5.3 2010/06/12 22:44:41 7.721 91.982 19.3 NICOBAR ISLANDS, INDIA REGION

MAP 5.4 2010/06/12 22:41:29 -10.910 166.092 102.0 SANTA CRUZ ISLANDS

MAP 7.5 2010/06/12 19:26:50 7.748 91.938 35.0 NICOBAR ISLANDS, INDIA REGION

MAP 5.0 2010/06/12 15:56:54 54.542 -161.469 44.3 ALASKA PENINSULA

MAP 5.3 2010/06/12 15:44:57 28.805 128.621 39.5 RYUKYU ISLANDS, JAPAN

MAP 5.0 2010/06/12 13:36:40 -5.729 102.595 35.0 SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA

MAP 5.1 2010/06/12 03:51:56 -28.227 -70.914 34.3 ATACAMA, CHILE

MAP 5.0 2010/06/12 03:50:00 1.034 120.127 43.5 MINAHASA, SULAWESI, INDONESIA

MAP 5.0 2010/06/12 02:21:23 -22.366 172.152 35.0 SOUTHEAST OF THE LOYALTY ISLANDS

Message indian.2010.06.12.201807

Tsunami Information Earthquake Information
Message Time: 12 Jun 2010 20:18 UTC
Message Num: 2
Message Text: click to read
Message Type: Local Tsunami Watch Bulletin
Warning: none
Watch: India
ETAs / Obs: none
Preliminary (PTWC) Official (USGS)
Origin Time: 12 Jun 2010 19:27 UTC 12 Jun 2010 19:26 UTC
Magnitude: 7.5 Mwp (reviewed by PTWC) 7.7
Latitude: 7.8° N 7.7° N
Longitude: 92° E 92° E
Depth: 35 km (21.7 mi)
Location: Nicobar Islands India Region
More Info.: updated earthquake information from the USGS NEIC

http://www.weather.gov/ptwc/ ศูนย์เตือนภัยสึนามิ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แผนปรองดอง แม้ว

ผ่าประเด็นร้อน ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้สังคมรับรู้แล้วว่าเป็น “หัวหน้าผู้ก่อการร้าย” ถูกออกหมายจับเพิ่มอีกหลายคดี การโผล่หน้าออกมาดังกล่าวเหมือนกับว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เนื่องจากบังเอิญว่าเป็นช่วงที่นายกรัฐมนตรีกำลังเสนอแผนปรองดอง 5 ข้ออยู่พอดี และที่สำคัญและบังเอิญไปกว่านั้นยังเป็นวันที่ ทักษิณ ออกมาเสนอแผนสันติภาพยังตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์อีกด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาจน “เพี้ยน” หรือว่าผิดหวังจนสติแตกหรือเปล่าไม่รู้ที่จู่ๆ ทักษิณ ชินวัตร ก็โผล่ออกมายื่นข้อเสนอผ่านทางคนรับใช้ส่วนตัวคือ นพดล ปัทมะ เรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำแผนสันติภาพโดยมีการเจรจาสงบศึก โดยให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมและลงสัตยาบัน ก่อนที่จะไปถึงเรื่องอื่นก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ความหมายที่เกี่ยวกับสันติภาพนั้นย่อมต้องควบคู่ไปกับ “สงคราม” ใช่หรือไม่ รวมไปถึงการเจรจาสงบศึก ก็มักจะใช้ในลักษณะเดียวกัน หรือต้องใช้คนกลางเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเป็นการออกมาแสดงความเห็นครั้งแรก นับตั้งแต่ “คนเสื้อแดง” ก่อการจลาจล เผาบ้านเผาเมืองตั้งแต่เดือนเมษายนต่อเนื่องมาจนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว ไม่สามารถโค่นล้มรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงได้ แม้จะมีความพยายามต่อเนื่องกันสองปีซ้อนนั่นคือเมื่อเดือนเมษายนปี 2552 และล่าสุดในปี 2553 ดังกล่าว แม้ว่าจะมีการโหมความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า ทุ่มทุนกันไม่อั้นแต่ก็ยังทำกันไม่สำเร็จ บรรดาแกนนำที่ก่อการถูกควบคุมตัว บางคนหนีลงใต้ดินเตรียมก่อการใหม่ กระจัดกระจายกันไปชั่วคราว ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้สังคมรับรู้แล้วว่าเป็น “หัวหน้าผู้ก่อการร้าย” ถูกออกหมายจับเพิ่มอีกหลายคดี การโผล่หน้าออกมาดังกล่าวเหมือนกับว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เนื่องจากบังเอิญว่าเป็นช่วงที่นายกรัฐมนตรีกำลังเสนอแผนปรองดอง 5 ข้ออยู่พอดี และที่สำคัญและบังเอิญไปกว่านั้นยังเป็นวันที่ ทักษิณ ออกมาเสนอแผนสันติภาพยังตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์อีกด้วย แม้ว่าถ้อยคำในทวิตเตอร์ของเขาจะระบุในตอนต้นทำนองว่าเร่งรัดให้รัฐบาลถวายพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่งใหญ่โดยพยายามเปรียบเทียบกับยุคที่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม อย่างไรก็ดีเมื่อปะติดปะต่อกับคำแถลงของ นพดล ปัทมะ ที่ออกมาเสนอแผนสันติภาพ และให้ทุกฝ่ายทำสัญญาสงบศึกนั้น ยังต่อท้ายให้ชวนคิดอีกว่า “หากพูดกับทักษิณดีๆก็จะปรองดองด้วย” มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ เพราะถ้าอีกด้านหนึ่งในแผนปรองดองที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีตัวแทนของทักษิณเข้าไปร่วมก็จะ “มีเรื่อง” อย่างนั้นหรือ นอกจากนี้สิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อมาก็คือ ในการทวิตเตอร์ส่งสัญญาณครั้งล่าสุดของ หัวหน้าขบวนการโจรก่อการร้ายคนนี้ยังพุ่งเป้าไปที่ผู้นำกองทัพ มีลักษณะจง “เสี้ยม” ให้เกิดความระแวงระหว่างกัน โดยเฉพาะระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก ขณะเดียวกันในข้อความยังเต็มไปด้วยความเหยียดหยามปรามาส ปลุกระดมให้คนเสื้อแดงและคนทั่วไปเกิดความเกลียดชังระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ ร่วมอยู่ในขบวนการสั่งฆ่าประชาชน แต่ละข้อความที่สื่อออกมาล้วนเต็มไปอารมณ์ที่เร่าร้อน และเจตนาที่เคลือบแฝงทั้งสิ้น การส่งสัญญาณแบบตั้งเงื่อนไขของ ทักษิณ ครั้งล่าสุด หากพิจารณาอย่างทำความเข้าใจ ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่าต้องการให้รัฐบาลเจรจากับเขาหรือตัวแทน หรือแม้กระทั่งเข้าไปมีส่วนร่วมกับตัวแทนกลุ่มอื่นๆในลักษณะของการลงนามสันติภาพ เป็นการเจรจาสงบศึกก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งหากสังเกตให้ดีรูปการก็ไม่ได้แตกต่างไปจากข้อเสนอครั้งก่อนที่มีการพูดถึงเรื่องสัตยาบัน อะไรทำนองนี้ แต่คำถามก็คือ ถ้ารัฐบาลปฏิเสธไม่ให้ทักษิณ หรือตัวแทนเข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนละเรื่องกัน ในลักษณะที่ต้องแยกแยะออกมาว่าใครที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ และแผนปรองดองที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในเวลานี้มีแนวโน้มออกมาในลักษณะของการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน โดยจะต้องก้าวข้ามปัญหาส่วนตัวอย่างแน่นอน ถ้าแนวทางออกมาแบบนี้ ทักษิณ จะก่อสงครามต่อใช่หรือไม่ เหมือนกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า เมื่อครั้งที่มีการแอบเจรจากันระหว่างตัวแทนของ นายกรัฐมนตรีกับแกนนำของคนเสื้อแดง จนมีการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ของ นายกรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม นั่นคือทั้งสองฝ่ายยอมรับแผนปรองดองแล้วจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน ขณะที่เงื่อนไขหนึ่งก็คือ แกนนำเสื้อแดงต้องยุติการชุมนุมโดยทันที ซึ่งทุกอย่างกำลังจะลงเอยอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่าต้องล่มกลางคัน สาเหตุมีอยู่เรื่องเดียวคือ “ทักษิณไม่ได้ประโยชน์” เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือ เงินที่ถูกศาลสั่งยึดไปด้วยคดีทุจริต และอยากได้อำนาจกลับคืนมาเท่านั้น จนนำมาสู่การชุมนุมก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมืองในที่สุด มาคราวนี้เมื่อสิ่งที่เขาต้องการดังกล่าวยังไม่ได้รับการสนองตอบ มันก็ทำให้น่าหวาดเสียวอีกว่า “สันติภาพ” ก็ จะไม่ทางเกิดขึ้น อีกทั้งถ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของบรรดาแกนนำรุ่นใหม่ของคนเสื้อแดง โดยเฉพาะระดับ “ฮาร์ดคอร์” ที่มีหมายจับหลายคนยังคงกบดานนิ่ง ยังจับกุมไม่ได้ อีกทั้งเมื่อการชุมนุมที่ผ่านมาก็ได้เห็นการใช้อาวุธสงครามคู่ขนานกันไป และหากความหมายของการเรียกร้องเจรจาสันติภาพไม่ได้รับการตอบสนอง ก็จะเกิด “สงคราม” ใช่หรือไม่ !!

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พธม. - การเมืองใหม่ - ปตท. / เงินปลุกผีมานั่งโม่แป้ง !!!

ความกลัวคือความเสื่อม / สื่อประชาชนซื้อไม่ได้ / การเมืองใหม่ กับภาพลักษณ์
ไหนเคยบอกว่า ... จะเอามาเป็นของประชาชน
หลายๆ คน ... ขอคืน
....
ไม่ลงข่างเชิงลบ - จบด้วย โลโก้โฆษณา ราคาแพงสุดๆ
ไม่เชื่อ .... ต้องหาคน ... คนค้นคนดี

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Final Destination 6

อะไรกำลัง จะเกิดขึ้น ที่มาบตาพุด!!!

วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทักษิณ บอก อำมาตย์ มองคนจนเหมือน ไพร่ทาส 14-มี.ค.-53

ความจริงวันนี้ ที่ People TV - Counter ผู้ชม ได้ 13, 5, 51 เกิดอะไรขึ้น กับ เทคโนโลยี่ ของ มหาเศรษฐี นักโทษชาย ที่จะทำอะไรเพื่อแต่ตัวเอง ... ชาติเสียหายอย่างไรไม่รู้ ? ความร่ำรวย - ธุรกิจต่างๆ ก้อได้มาจาก การปฏิวัติ ของ รสช. / สัมปทาน-ดาวเทียม -โทรศัพท์ ซึ้อมา 3-4 พัน เอามาขาย 3-4 หมื่น นั่นก้อด้วย!!!

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

SuperMark II - It's not easy

สถานการณ์ ชาติบ้านเมือง วกวน กลับมายังจุดเดิมๆ อีก แม้ผ่านไปยังไม่ทันครบปี
SuperMark ภาคแรก ที่ดูเหมือน จบแบบถล่มทลายความรู้สึกผู้คนในสังคม ขบวนการคนใส่เสื้อแดง ไม่กล้าใส่เสื้อแดงกันอยู่หลายวัน แต่เป็นเพราะ ... มันก้อกลับฟื้นคืนขึ้นมาอีก
ภาคแรก ที่เริ่มต้นกับความล้มเหลวด้วยการใช้กำลังของตำรวจ ซึ่งถูกมองว่า หลายส่วนยังสนับสนุน ขบวนการของ นช.ทักษิณอยู่ การปล่อยผ่าน จนบ้านเมืองเกือบพินาศ และจบด้วยการใช้กำลังทหาร แต่อะไรๆ ก้อเหมือนแค่เดินออกจากโรงหนัง เพราะตัวเอก กระชับอำนาจได้แค่ เวลาอันสั้น หลังจากนั้น กลับมีขบวนการต่อยอดการโกงกิน จนเกือบถูก ขานนามว่า เป็นรัฐบาลขี้ฉ้อ อยู่เพื่อฉ้อฉลกันต่อไป ... ไม่มีวาระอะไรชัดเจน
ภาคสอง ที่เหมือนเพิ่งจะเริ่มต้น ... จากการใช้ตำรวจ เหมือนภาคแรกไม่มีผิด แต่ตอนจบภาคนี้ จะเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครทายได้ นอกจาก หมอเดา ที่พูดออกมาเสียงเหมือนกันว่า จะแดงไปทั้งถนน ถ้าเป็น พวกนั่งทางใน สีแดงของเสื้อ กับสีแดงของเลือด นั่งหลับตากระพริบถี่ๆ มันก้อสีเดียวกันนะ ... !

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง

ตามข่าว ... สันติวิธี ของ โคทม-ปริญญา ริบบิ้นขาว เสื้อขาว อะไรนั่น งานสันติวิธีทำระยะสั้นๆ ก่อนการชุมนุม มาหลายๆครั้ง บางครั้ง ก้อมีความเอนเอียง เข้าข้างคนผิด จนเกิดความหวาดระแวง ของสังคม ว่าจริงใจ หรือ จิงโจ้ กับการออกมาเรียกร้อง ... ให้ไม่ใช้ความรุนแรง ท่ามกลางสงครามครั้งสุดท้าย ของนักโทษชายทักษิณ ที่ยังหนีคดี และป่าวประกาศว่าศาลไม่มีความยุติธรรม โดนปล้นอำนาจ ทั้งที่มีทั้งนายก สมัคร สมชาย มาแล้ว กับ รัฐธรรมนูญ ปี 50 และปลุกประชาชนออกมายึดอำนาจคืน เพื่อใช้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่คิดว่าตัวเองไม่มีความผิด ... ทั้งๆที่ ฉบับไหนๆ ก้อผิด อยู่วันยังค่ำ
ขณะนี้ มีข่าวหลายกระแส - ถึงความเหี้ยมโหด ว่าอาจจะเลือกให้ แกนนำคนใส่เสื้อแดง บางคน ให้ล่วงหน้าไปนรกก่อน .... ประมาณว่า ก่อนวันที่ 14 มี.ค. 53 จะมีแกนนำเสื้อคนใส่แดง 1 คน ถูกแห่ซาก ... เพื่อก่อสงครามประชาชนล้มกระดานของนายใหญ่ !!!

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปตท. แบนข่าว อะไร ใน เวบวิชาการ ดอท คอม

มีความพยายาม Post ข้อความ ซ้ำ แต่ก้อโดนแบนอีก!!!
ผู้เขียน: ไมเคิล1980 ชมแล้ว: 623 ครั้ง - www.vcharkarn.com/vblog/85986 - แคช
post ครั้งแรก: Tue 9 February 2010, 11:50 pm ปรับปรุงล่าสุด: Tue 9 February 2010, 11:51 pm
ผู้เขียน: ไมเคิล1980 ชมแล้ว: 148 ครั้ง -
www.vcharkarn.com/vblog/85711 - แคช
post ครั้งแรก: Tue 9 February 2010, 9:11 am ปรับปรุงล่าสุด: Tue 9 February 2010, 9:11 am
ข่าว โรงงานในมาบตาพุด ไม่ตอกเสาเข็ม

มาบตาพุด กับ อภิสิทธิ์ "ผู้ที่รู้ทุกเรื่อง-พูดได้ทุกเรื่อง"

เรือบรรทุก ก๊าซแอลพีจี กับโรงแยกก๊าซ ปตท. ที่ยังเปิดใช้ไม่ได้ และการพยุงราคาก๊าซในประเทศ

อภิสิทธิ์ "ผู้ที่รู้ทุกเรื่อง-พูดได้ทุกเรื่อง"

นายกฯ อภิสิทธิ์นี่เก่งนะ พูดได้ทุกเรื่อง รู้ทุกเรื่อง แต่ทำไม่ได้เรื่องซักเรื่อง สมแล้วละที่ "สำนักข่าวต่างประเทศ" เขาฟันธงถึงผลงานในรอบปีว่า "ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน" ก็ปัญหามาบตาพุดเป็นเรื่องใหญ่สะเทือนถึงฐานรากประเทศ

เป็นนายกฯ...แล้วพาวเวอร์นำชาติของนายกฯ อยู่ไหน มันต้องสร้างความชัดเจนเป็นทางปฏิบัติ-เป็นทางออก "ภายใต้กรอบเวลา" ให้ภาคเศรษฐกิจและสังคมเขายึดเป็นทิศทางให้ได้? ไม่ใช่ตั้งคณะกรรมการ ๔ ฝ่ายขึ้นมาแล้วก็ถือว่า "ภาระของนายกฯ จบแล้ว" นักข่าวถามอะไรทีก็ถนัดตอบแต่ว่า "รอเขารายงาน" เวลาก็ผ่านไปวันๆ จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน การเมืองน่ะรอได้ ยิ่งยืดเป็นหนังสติ๊กกูยิ่งชอบ จะได้อยู่ในตำแหน่งนานๆ มีเงินหลวงให้ผลาญฟรี แต่ธุรกิจการค้า-การลงทุน เขารอโดยไม่มีทิศทางชัดเจนไม่ไหวหรอกครับ เพราะเขามีต้นทุนต้องบริหาร มีต้น-มีดอก มีการแข่งขัน และภาคแรงงานเขาก็ต้องมีปาก มีท้อง มีครอบครัว ต้องหาเงินจากการทำงานมาเลี้ยงดู ในเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐปล่อยให้เวลากินตัวไปวันๆ กับปัญหามาบตาพุด โดยไม่แสดงความกระตือรือร้นในการแก้ไขให้เกิดเป็นรูปธรรม เราจะสังเกตเห็นว่า "ปริศนาแทรกซ้อน" เริ่มมาแล้ว..มาแบบ "ปัญหาน่าฉงน" เกิดขึ้นในพื้นที่แทบจะรายวัน?! ปัญหาหลักก็ยัง "ตั้งหลัก" กันไม่ได้ ปัญหาขี้หมูรา-ขี้หมาแห้งก็ปะทุเป็นรายวัน แล้วฝ่ายรัฐก็บริหารปัญหาแบบ "ลิงแก้แห" ไปวันๆ พูดกันตรงๆ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงของท่านนายกฯ น่ะ ๗๐-๘๐% เลือกเอาวิธี "จับฉลาก" ผมว่าเผลอๆ ยังจะฟลุคได้คนมีกึ๋นสมตำแหน่งมากกว่าที่จับกันมายัดอยู่ขณะนี้ซะอีก อย่างกระทรวงอุตสาหกรรม "นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง" งี้ กระทรวงคมนาคม "นายโสภณ ซารัมย์" งี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม "นายสุวิทย์ คุณกิตติ" งี้ กระทรวงพาณิชย์ "นางพรทิวา นาคาสัย" งี้! พูดได้คำเดียวว่า "เวรกรรมคนไทย" และสมน้ำหน้าแล้วที่บริโภคนักการเมืองกันแบบไม่จำชื่อ-ไม่สนใจประวัติอันเป็นปูมหลังกันเลย!! ผมอยากจะถามท่านนายกฯ ในเชิง "ฝากให้คิด" ว่า ในขณะที่ข่าวสร้างภาพให้ "อุตสาหกรรมมาบตาพุด" เป็นผู้ร้ายถูกปล่อยผ่านสื่อออกมาทุกวัน และกระหน่ำซ้ำด้วยข่าวถอนการลงทุน-ปิดโรงงาน-ลอยแพคนงาน ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และธุรกิจการเงินไทย "วิบัติแน่" แพร่ภาพ-แพร่ข่าวยัดใส่สมองชาวบ้านทุกวัน แล้วมีมั้ยที่ "ข่าวสาร" อันเป็นเนื้องานคืบหน้าของการแก้ปัญหาไปสู่บทจบจากภาครัฐ ที่ฝ่ายรัฐจะตั้งโต๊ะแจกแจงเป็นข่าวให้ชาวบ้านได้รู้เป็นรายวันว่า เรื่องไปถึงไหน แนวโน้มของทางออกจะไปทางไหน และจะจบแบบไหน เมื่อไหร่กัน เพื่อให้สังคมเขาได้ยึดเป็นทิศนำทางบ้าง? ไม่มีเลย รัฐมนตรีคุมสื่อ "นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย" แกก็จมหนองอยู่ในกอเตยจนมิดหัว ดูๆ ไปแล้วพวกประชาธิปัตย์นี่ สมแล้วที่เป็นนักการเมือง เพราะถนัดอยู่เรื่องเดียว คือ...เรื่องพูดการเมือง! เอาละครับ...มาต่อ "คำต่อคำของอำมาตย์ ๑๐๐% ชื่อ ดร.สุเมธ" จากที่ค้างไว้แต่วานนี้ให้จบดีกว่า แล้ววันต่อไปจะได้มาตั้งต้นคุยกันใหม่ เพราะเมืองไทยเพื่อปัจจุบันและอนาคต มันมีอะไรให้พูด-ให้ทำมากกว่าเป็น "ควายจมปลัก" อยู่กับเรื่องทักษิณ-เสื้อเหลือง-เสื้อแดง-ฮุน เซน ก็ดูซี ๑ ปีผ่านไป อภิสิทธิ์ยังเกิดไม่ได้เต็มตัวเลย แต่เพียงไม่ถึงเดือนดี "สิมารักษ์-ศิวรักษ์" ทักษิณภาพยนตร์นำเสนอ "เกิดเต็มตัว" ไปแล้ว!! คำต่อคำของอำมาตย์ ๑๐๐% ชื่อ ดร.สุเมธ (ต่อ) "พระอารมณ์ขันและคำเตือน" "งานผมก็เคยถวายรายงานแล้วไม่ถูกพระทัย เพราะเราพลาด เราก็รู้ว่าเราต้องทำใหม่ มนุษย์คนไหนไม่พลาดเลยตลอดชีวิต คนนั้นบ้าแล้ว บางคนทำผิดเท่าไร ไม่เคยเห็นความผิดของตัวเอง คนแบบนี้พระพุทธเจ้าสอนว่า เป็นพวกบัวใต้น้ำ พระองค์ท่านทรงดุเพื่อไม่ให้เราผิดพลาดอีก" พระองค์ท่านเคยตรัสถามว่า จะอยู่ถึง 120 ปีด้วยกันมั้ย เราก็ตอบว่า ตอนนั้นข้าพระพุทธเจ้าก็คง 108 ปี...ทรงมีอารมณ์ขัน นอกจากนี้ทรงมีการเตือนพวกเราตลอดเวลา ว่าอย่าให้ตัวเองอ้วนเกินไป ให้มีวินัยในการประพฤติตัว ปีที่แล้วเราอายุ 69 ปี ก็ขอพร ท่านตรัสว่า "ให้กินน้อยๆ" "ทรงเตือนว่า เป็นนักพัฒนาต้องแข็งแรง เพราะต้องออกเยี่ยมเยียนประชาชน อย่าตามใจปาก พออิ่มก็หยุดได้แล้ว" "ความทุกข์...ของพ่อ" "เรื่องความทุกข์ ท่านไม่ทุกข์ แต่ก็ธรรมดาถ้าลูกๆ ทะเลาะกัน พ่อ-แม่ก็ทุกข์...ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ก็ลูกท่านทั้งนั้น ตามวิสัยพ่อ-แม่ รู้สึก Hurt ทั้งนั้น ถ้าลูกตีกัน ฉันใดก็ฉันนั้น พระองค์ท่านก็ทรงห่วง" จะเห็นว่าเมื่อมีวิกฤติเป็นระยะๆ ท่านก็ทรงเตือนให้รักษาบ้าน รักษาเมือง ประเทศชาติเกิดอะไรก็ไปกันหมด ประเทศไม่สงบ ก็เดือดร้อนกันหมด ทรงเตือนให้มีสติ เอาสติกลับมา ทะเลาะกันก็เดือดร้อนกันทั้งคู่ "พระประมุขแห่งแผ่นดินเห็นอย่างนี้ ก็คงกลุ้มพระทัย แต่เราก็ไม่เคยทูลถาม แต่ก็สังเกตเห็น" หลายฝ่ายจะให้ท่านทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ทำไม่ได้หรอก พูดอย่างนั้นเป็นการพูดกันตามอำเภอใจ แต่พระองค์ทรงมีทศพิธราชธรรมอยู่ข้อหนึ่งคือ อวิโรธนะ คือทำผิดไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสม ถูกกฎหมายหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าอย่างไร ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ บางทีก็ไม่รู้เรื่อง ตอนหนึ่งมีนักข่าวต่างชาติมาสัมภาษณ์ท่านเรื่องพฤษภาทมิฬ ท่านรับสั่งว่า ตอนนั้นนายกรัฐมนตรีก็มี รัฐบาลก็อยู่ จะให้ท่านออกมาได้อย่างไร ถ้าท่านออกมาก็จะถูกหาว่าเข้าข้างรัฐบาลได้ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายควบคุมกันไม่ได้ แล้วมีคนตาย ท่านก็ออกมา ท่านจะทรงทำอะไร ไม่ทำอะไร เป็นเรื่องที่ยากมาก ท่านมีกรอบ มีคนมาวิพากษ์วิจารณ์ท่าน พระองค์ท่านก็นิ่งเงียบ อดทน ไม่เหมือนเรา ใครด่า เราก็ด่าตอบ แต่ท่านทรงทำอย่างนั้นได้ที่ไหน "ในหลวงเป็นนักบุญที่มีชีวิต" เรื่องที่วิจารณ์เปรียบเทียบกันว่า สถาบันของไทยไม่เหมือนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ประเทศอื่น ก็ใช่ ของเขาก็ของเขา ไม่เหมือนของเรา เปรียบเทียบกันไม่ได้ ผมก็เคยพูดไปว่าไม่เหมือนกันระหว่างเมืองไทยกับประเทศอื่น ก็มีคนหาว่าผมเล่านิทานโกหก สถาบันของเราถวายคำว่ามหาราช ท่านก็ยังไม่รับ พระองค์ท่านเป็นนักบุญที่มีชีวิต ตลอด 63 ปี ท่านทรงงานตลอด ท่านทรงทำอะไรไม่ดีต่อแผ่นดินบ้าง พระองค์ท่านเหมือนพระ ท่านทำเพื่อทำ ท่านเคยตรัสว่า "ฉันใช้ระบบสังฆทาน ทำไปโดยไม่เจาะจงว่าเพื่อใคร" หาอย่างนี้ไม่ได้แล้ว เด็กรุ่นใหม่เขาอาจจะไม่เคยสัมผัส ทั้งๆ ที่สื่อก็ออกมามากมาย แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เพราะไปศึกษาในโลกตะวันตก ก็มีค่านิยมอีกแบบ ที่สุดก็ถูกครอบงำโดยตะวันตก จนลืมรากเหง้าตัวเอง เด็กรุ่นใหม่ก็คิดเรื่องเงินตัวเดียว ทำงานก็เพื่อเงิน ต้องรวย คุณธรรมช่างหัวมัน ทัศนคติเด็กที่คิดเรื่องคอรัปชั่น บอกว่าขอให้สะดวกสบาย มีการบริการ ไม่แยกแยะ เรื่องดีเรื่องไม่ดี แหม...ต้องกราบขออภัยสักร้อยครั้ง กะแต่วานว่า "วันนี้จบแน่" แต่ก็ไม่จบ เพราะผมฉายหนังขายยาต้นม้วนยาวไปหน่อย มาดูอีกที อ้าว...ตายแล้ว ยาวเกือบ ๒ เท่าที่เคยเขียน ขืนลงไปก็ต้องถูกต่อว่า "ใครจะอ่านเห็น" เพราะตัวเท่ามดทารก ฉะนั้น อย่ากระนั้นเลย พรุ่งนี้อีกวัน เป็นวันที่สาม "คำต่อคำ" ของอำมาตย์ ๑๐๐% จบสมบูรณ์แน่ๆ.

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

กลัวเสื้อแดงจับเมีย ถวายพระ!!! เตรียมใช้ พรบ.มั่นคง

เทพ...สะท้าน กลัวเสื้อแดงจับเมีย ถวายพระ!!! เตรียมใช้ พรบ.มั่นคง

มหาโชว์ (มหาหื่น) ยังกล่าวอีกว่า คนกับสัตว์นี่ มันใกล้ๆ กัน เราไล่ตีหมาไปชนกำแพงไม่เปิดทางใมันวิ่ง มันก็กัด แต่ทักษิณไม่ใช่หมา ขนาดหมา เราไล่ถึงกำแพง ไม่เปิดทางให้มัน หมาตัวนั้นมันก็กัด "ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องทำอย่างทักษิณ เอาแค่อภิสิทธิ์ ถ้ามีใครไปยึดเมียที่จุฬาฯ มึงทำใจได้มั้ย "หรือไม่อย่างนั้น ไปยึดเมียไอ้เทพเทือก ยึดเมีย เอามาถวายพระ"

ตำรวจกลัว เสธ.แดง ก่อเหตุซ้ำ!!! แต่ศาลไม่กลัว ให้ประกันตัว ... ออกมา

กองปราบ-ปอท.คุมตัว “เสธ.แดง-เคทอง” พร้อมลิ่วล้อ ฝากขังค้านประกันกลัวหนี เจ้าตัวยื่นโฉนดที่ จ.นครปฐม มูลค่ากว่า 1.8 ล้าน สุดท้ายศาลให้ประกันเฉพาะ “เสธ.แดง กับสมุน” ส่วน “เคทอง” วืด เพราะเห็นว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายก่อการร้าย - รัฐบาลโล่งใจเสธ.แดง โดนจับ แต่พอ ศาล สั่งให้ประกัน ... !!! ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 เนื่องจาก พล.ต.ขัตติยะ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่กองปราบปรามมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และมียุทธภัณฑ์จำนวน 16 รายการ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคดีดังกล่าวผู้ต้องหาได้เลื่อนนัดหลายครั้ง มีพฤติการณ์จะหลบหนี โดยเดินทางเข้าออกต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอออกหมายจับนำตัวส่งพนักงานอัยการต่อไป ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1 มีพฤติการณ์ให้ข่าวลักษณะที่มีการข่มขู่ผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งว่าจะมีการประทุษร้ายบุคคลสำคัญ ทรัพย์สิน และสถานที่ราชการสำคัญ รวมทั้งผู้ที่จะมาชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุร้ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ และยังมีการประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธในนาม “นักรบพระเจ้าตาก” มาแล้วในอดีต อีกทั้งในวันเกิดเหตุคดีนี้ผู้ต้องหาที่ 1 ยังได้พาผู้ต้องหาที่ 2-8 พกพาอาวุธปืนและมีดไปสถานที่ต่างๆ และเข้ามาในกองปราบปรามโดยไม่ย้ำเกรงต่อกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1-8 ยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดง หรือ นปช.ซึ่งจะมีการชุมนุมในระยะเวลาอันใกล้นี้จึงอาจสร้างความวุ่นวายและความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติ หรืออาจก่อเหตุอันตรายในประการอื่นให้กับสังคมในที่สาธารณะและที่ส่วนบุคคล สำหรับผู้ต้องหาที่ 2-8 มีรายงานการสืบสวนว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่พยายามใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุเพื่อให้เกิดความวุ่นวายภายในประเทศ และยังปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนว่าผู้ต้องหาที่ 8 พูดจาข่มขู่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนยังมีความสัมพันธ์ทางการเมืองด้วยกันในนามพรรคขัตติยะธรรม ดังนั้น หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุอันตราย หรืออาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน ล่าสุด ... ด้วยใจจดจ่อของคนทั้งประเทศ แต่มีข่าวบอกว่า ศาลท่านให้ประกัน ออกมา เพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับชาติบ้านเมือง ตามที่ เสธ.แดง เคยประกาศ จบภายใน 4 วัน แบบนั้นหรือไม่ เป็นดุลพินิจที่ไม่อาจก้าวล่วง!!! แต่ถ้าบ้านเมืองวุ่นวาย ... ท่านที่ปล่อยออกมา จะว่าอย่างไร? (หมาบ้า...เค้ายังต้องไล่ตีจนตาย หรือว่าปล่อยมาให้ ... )

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

ศาลปกครอง กลัวล้มพัง - ให้ดำเนินการต่อ

ข่าวจากศาลปกครอง ... เรื่องให้มีการก่อสร้างต่อโครงการที่ถูกระงับ
ฉบับ-ข่าว : http://www.admincourt.go.th/attach/news_attach/2010/02/data-24022553.pdf
ฉบับเต็ม : http://www.admincourt.go.th/attach/news_attach/2010/02/MapTaPut24-03-2010.pdf
มีความจําเปนอันไมอาจกาวลวงไดจะตองดําเนินการ กอสรางอาคาร ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณในโครงการหรือกิจกรรมตอไป ซึ่งหากไมดําเนินการตอไปใหแลวเสร็จจะไดรับความเสียหายอยางรายแรงและเสียหายเปนอันมากและยากที่จะเยียวยาความเสียหายในภายหลัง ซึ่งหากศาลอนุญาตใหกอสรางและทดสอบการเดินเครื่องจักรแลว จะไมเปดดําเนินการโครงการหรือกิจกรรมกอนที่ศาลจะมีคําพิพากษาหรือคําสั่งเปนอยางอื่นและจะปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ที่จะออกตามความในมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ตอไป
... ซึ่งหากไมดําเนินการตอไปใหแลวเสร็จจะไดรับความเสียหายอยางรายแรงและ เสียหายเปนอันมากและยากที่จะเยียวยาความเสียหายในภายหลัง เนื่องจากงานกอสรางที่คางอยู เชน โครงสรางเหล็กที่ยังติดตั้งไมสมบูรณทําใหไมมั่นคงแข็งแรงและไมสามารถรองรับน้ำหนักได ตามหลักวิศวกรรมและอาจลมพังลงมาได ซึ่งจะเปนอันตรายตอโครงการเดิมที่อยูใกลกันและ ตอพนักงานที่ทํางานในบริเวณใกลเคียง โครงสรางเหล็กที่ติดตั้งแลวแตยังไมมีการเทคอนกรีตทนไฟ หุมไวกอใหเกิดสนิม และหากเกิดไฟไหมอาจทําใหโครงสรางเหล็กที่ติดตั้งไวสูญเสียกําลังและพังลง มา การติดตั้งเครื่องจักรที่ยังไมเสร็จสมบูรณไมมีโครงเหล็กที่แข็งแรงรองรับหรือยังไมไดยึด เครื่องจักรใหมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม หรือเครื่องจักรของโครงการตาง ๆ ซึ่งมีขนาดใหญที่ ไดยกขึ้นติดตั้งแลว แตยังไมไดยึดใหมั่นคงแข็งแรง เมื่อมีแรงสั่นสะเทือนอาจเกิดการเคลื่อนยายหนี ออกไปจากจุดติดตั้ง ทําใหเสียสมดุลและโครงสรางอาจไมสามารถรับน้ำหนักได ฐานรากที่กอสราง รองรับเครื่องจักรที่กอสรางทิ้งไวซึ่งยังไมไดติดตั้งเครื่องจักรทําใหเกิดสนิม เครื่องจักรที่ติดตั้งทิ้งไว ยังไมไดทาสีทําใหเกิดสนิมและเกิดความเสียหายตอเครื่องจักรและอุปกรณ ทอที่กองรวมกันไว จํานวนมากยังไมไดยกขึ้นไปติดตั้งเกิดสนิมทั้งภายในทอและภายนอกทอสงผลใหความแข็งแรงใน การรับแรงดันเสียไป ระบบทอและเครื่องจักรเกิดสนิม นั่งรานของโครงการตาง ๆ ซึ่งเปนโครงเหล็ก ใชค้ำยันโครงสรางและเครื่องจักรขนาดใหญกระจายอยูตามพื้นที่กอสรางที่หยุดทําการกอสรางใน โครงการตางๆ หลายบริเวณตั้งอยูในที่มีความสูงหลายสิบเมตรการปลอยทิ้งไวโดยไมไดดําเนินการ

กอสรางติดตอกันมาหลายเดือนอาจหลุดลวงลงมาหรือพังลมลงได ซึ่งจะกอใหเกิดอันตรายอื่น ๆ ตอเนื่องตามมา ระบบดับเพลิงที่ดําเนินการไมแลวเสร็จทําใหประสิทธิภาพการปองกันอัคคีภัยในบริเวณใกลเคียงลดนอยลง การบรรจุสารเคมีซึ่งขณะนี้เก็บไวในลักษณะชั่วคราวไมไดเก็บในถังเก็บสารเคมีอาจเกิดการฟุงกระจายออกไป เปนตน

ศาลเห็นวา ตามขอเท็จจริงที่กลาวมาถือไดวา เปนขอเท็จจริงหรือพฤติการณที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังศาลมีคําสั่งเกี่ยวกับการกําหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกขเปนการชั่วคราวกอน การพิพากษา จึงมีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะรับคํารองนี้ไวพิจารณา

---- ถ้าสร้างเสร็จแล้ว ทดสอบระบบ พร้อมแล้ว ก๊าซและสารเคมีอยู่ในท่ออยู่ในถังเก็บต่างๆแล้ว ก้อจะขอดำเนินการผลิต เพราะถ้าผลิตไม่ได้ก้อจะเสียหายร้ายแรงต่อวัตถุดิบ ก๊าซและสารเคมีที่บรรจุแล้วอาจรั่วไหล ---

และถ้าดำเนินการไม่ได้อาจเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวมและความมั่นใจของนักลงทุน อีก

Black List ตามหน้าไพ่

อ่ะฮ้า ! เพื่อไทย - เพื่อประชาชน - ไทยรักไทย - นปช อยากอยู่ในแบล๊กลิส แนว อเมริกันไล่ล่า ซัดดัม
ใครอยู่หน้าไพ่ใบไหน ใครจองแล้วหรือยัง