วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อ้างไม่กระทบ ผลักดันให้เปิดใช้โรงแยกก๊าซ เสี่ยง!!!

*** ทุกฝ่ายพยายามเปิดใช้โครงการเสี่ยง ทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยงก้อจะดันทุรัง *** การรั่วไหลของก๊าซคลอรีน เพราะดินรับน้ำหนักถังไม่ไหว ทรุดตัว จึงเป็นประเด็นว่า วันนี้โรงแยกก๊าซ ปตท. เสี่ยงอย่างไร http://www.oknation.net/blog/airfresh-society/2010/06/09/entry-1 ไทยโพสต์ หุ้นซึม ปิด 793 จุด ลุ้นสัปดาห์หน้าฟื้น แนะสะสมกลุ่ม ปตท. มั่นใจโรงแยกก๊าซฯ แห่งที่ 6 รอดบัญชีธุรกิจรุนแรง ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 มิ.ย. ปิดที่ 793.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 21,051.02 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 1,388.84 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขาย 484.73 ล้านบาท ต่างชาติซื้อ 502.12 ล้านบาท รายย่อยซื้อ 1,371.46 ล้านบาท นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 786-797 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ขณะที่ภาวะการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนค่อนข้างซบเซา อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าดัชนีปรับตัวลดลงไม่มากนัก อาจเป็นเพราะในช่วงวันหยุดนี้จะมีการประชุมกลุ่มประเทศ G-20 โดยความสำคัญอยู่ที่แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤติการคลังของยุโรป ซึ่งมีความคาดหวังว่าทางอียูจะต้องแสดงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของตลาดให้กลับมา สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยสะสมหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวลง โดยเลือกลงทุนหุ้นรายตัว เช่น ปตท.เคมิคอล (PTTCH) และ ปตท. (PTT) โดยในช่วงสัปดาห์หน้า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณาโครงการลงทุนในมาบตาพุด ซึ่งคาดว่าโครงการโรงแยกก๊าซฯ แห่งที่ 6 ไม่น่าจะเข้าข่ายโครงการหรือกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรุนแรง. นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย แก้ปัญหามาบตาพุด ได้สรุปประเภทอุตสาหกรรมที่เข้าข่ายส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนตามมาตรา 61 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ จำนวน 18 ประเภทกิจการนั้น ในส่วนของ ปตท.มีโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด ทั้งหมดรวม 25 โครงการ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ 18 โครงการ เนื่องจากถูกศาลสั่งระงับชั่วคราว ซึ่งส่วนตัวมองว่า โครงการส่วนใหญ่ของ ปตท.ไม่น่าจะเข้าข่าย ประเภท 18 กิจการดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ต้องดูประกาศที่ชัดเจนจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่จะสรุปออกมาก่อน จึงจะได้ความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ส่วนกรณีที่ กระทรวงพลังงาน เตรียมตรึงราคาก๊าซ LPG และ NGV ไปถึงสิ้นปีนั้น ในส่วนของ ปตท. พร้อมที่จะดำเนินการตาม หากเป็นนโยบายของรัฐบาล ไบเออร์ฯยังได้ชี้แจงว่ามีการลงทุนในไทยมากว่า 50 ปีแล้ว และมี 11 โครงการ ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ตั้งแต่ปี 2558 มูลค่าการลทุนรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท ด้านนายฟอน เพสคาเทโร โทเร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า โครงการลงทุนในมาบตาพุด 2 โครงการดังกล่าวทำรายงานอีไอเอมากว่า 1 ปีแล้ว ขณะที่รายงาน เอชไอเอก็เสร็จแล้ว บริษัทเห็นว่าทั้ง 2 โครงการไม่เข้าข่ายประเภทกิจการที่กระทบชุมชนรุนแรง โดยบริษัทได้ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ยื่นต่อศาลปกครองพิจารณาผ่อนผัน คาดว่าจะดำเนินโครงการดังกล่าวต่อได้ในไตรมาส 3 ปี 2553 ซึ่งบริษัทยังมีความเชื่อมั่นการลงทุนในไทยต่อ เพราะลงทุนมานาน เบื้องต้นมีแผนที่จะขยายการลงทุนการผลิตโพลีคาร์บอเนตเพิ่ม นายประสาน ตันประเสริฐ ประธานคณะกรรมการบริหารการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(บอร์ดกนอ.)กล่าวว่า จากการดูรายละเอียดร่างประเภทกิจการรุนแรง คาดว่าโครงการส่วนใหญ่ที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะหลุดและไม่เข้าข่ายใน 18 กิจการรุนแรง โดยโครงการที่จะได้รับผลกระทบอาจเหลือน้อยมาก ประมาณ 6-7 โครงการที่ติดอยู่ในบัญชี "ขณะนี้นักลงทุนคลายความกังวลใจในการจัดประเภทกิจการรุนแรงแล้ว รวมทั้งประเด็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 แต่สิ่งที่เอกชนกังวลกลับเป็นใจความของมาตรา 67 ในตอนท้ายที่เปิดช่องให้ประชาชนในชุมชนหรือผู้มีส่วนได้เสียสามารถกลับมาฟ้องร้องโครงการลงทุนได้ในภายหลัง" นายประสาน กล่าว ถ้ามาลงทุนแล้วทำอะไรเสี่ยงๆ ทิ้งไว้ รอวันทรุดพังระเบิด ก้อไม่ต้องมา มาบตาพุดเสี่ยงมากแล้ว!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น