วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

“มาร์ค” ลั่น GT-200 ความเสี่ยงสูง ห่วงชีวิต ประชาชน แล้วคนมาบตาพุด ล่ะ! ไม่ใช่คนรึไง

นักการเมือง - พรรคการเมือง ทำ-พูด แค่เอาตัวรอด !!! กรณี ... คนมาบตาพุด เสี่ยงตาย เงียบกันหมด เร่งรัดให้เดินหน้ากันได้ทุกวัน อ้างว่า กระทบเศรษฐกิจ จะมีปัญหาด้านพลังงาน ญี่ปุ่นจะถอนการลงทุน ทั้งภาครัฐ ทั้งสื่อมวลชน ประสานเสียงกัน จนผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ มองว่า การหยุดรอมาบตาพุด ... เป็นปัญหาชาติ
ภาครัฐ รู้ข้อมูลความเสี่ยง ตั้งแต่ 16 มกราคม 53 ปตท. รู้ข้อมูลความเสี่ยง 18 ธันวาคม 53 สื่อมวลชน -ภาคประชาสังคม รับรู้ ... 6 กุมภาพันธ์ 53 แต่ กำลังจะปล่อยให้คนมาบตาพุด เหมือนนกเหมือนปลาเหมือนสัตว์น้ำกลางทะเล ที่พอเกิดอะไรขึ้น ออกมาบอกว่า "ควบคุมไม่ได้" ปล่อยให้มันมอดใหม้ และดูเหมือนว่า ไม่มีใครในประเทศนี้ สนใจ ... ที่จะรู้อะไร เพราะข่าวถูกปิดเงียบหมด.-
นายกฯ อภิสิทธิ์ เห็นต่างกองทัพ ชี้จีที 200 ไม่ควรใช้ ระบุชัดมีความเสี่ยงสูง ไม่คุ้มกับชีวิตประชาชน ระบุสั่งกลาโหม-ก.วิทย์เร่งทำความเข้าใจผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้อง ขู่เล็งเรียกค่าเสียหายบริษัทตัวปัญหา แต่ระบุขอตรวจสอบอีกครั้งมีใครบ้าง สวนบริษัทผู้ผลิตหากมั่นใจของดีจริง ให้ยืนยันให้ชัดเจน เชื่อต้องมีการผ่าพิสูจน์แน่ เผยรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลก่อนทำหนังสือถึงอังกฤษ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.50 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีปัญหาเครื่องตรวจมวลสารรุ่นจีที 200 ว่า เรื่องทั้งหมดยังไม่จบตนเข้าใจว่า สิ่งที่เขาสะท้อนให้เห็นคือประสบการณ์ของผู้ใช้ และผู้ใช้ในพื้นที่ก็ยืนยันในความมั่นใจของตัวเอง แต่ในเชิงนโยบายก็ได้ยืนยันว่าเมื่อมีการทดสอบและทดลองในเชิงวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์แล้วก็ต้องเชื่อผลทางวิทยาศาสตร์ และน่าจะสอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฏมาเป็นระยะๆ ในต่างประเทศ และตรงนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องให้กระทรวงวิทย์ไปทำความเข้าใจกับคนที่ใช้ในพื้นที่ เพื่อที่จะช่วยกันดูและอธิบายว่าที่มีความเชื่อว่าที่ใช้กันได้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องคืออะไร และเมื่อทำความเข้าใจตรงนี้แล้ว คงจะทำให้การดำเนินการต่อไปสับสนน้อยลง เมื่อถามว่าหากเจ้าหน้าที่ยังจะใช้งานต่อไปจะไม่เป็นการหักหน้ากันของเจ้าหน้าที่หรือ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ ไม่มีการไปดำเนินการ เพราะในเรื่องตัวบุคคลแนวจะชัดเจน เพราะตอนนี้ถ้าไปใช้ ผู้ปฏิบัติจะทราบจากผู้บังคับบัญชาว่าเมื่อผลของการทดสอบออกมาและไปใช้แล้วเกิดปัญหากับตัวบุคคล ความปลอดภัยผู้ใช้จะมีความเสี่ยงอย่างสูง เพราะจะมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้น ว่ามีรายงานในเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้ “ผมคิดว่าเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เราก็เข้าใจความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ที่เขาคิดว่าเครื่องนี้เป็นอุปกรณ์สร้างความมั่นใจให้กับเขา แต่ขณะนี้มันยังไม่มีอะไรที่ไปทดแทนได้ ก็ย่อมเป็นปัญหาสำหรับเขาในขณะนี้และหากจะเอามาใช้ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย” นายกฯ กล่าว เมื่อถามว่ามีการเสนอให้นำไปทดลองในพื้นที่จริง นายกฯ ถามกลับมาว่า ใครจะออกแบบทดลอง และคำว่าทดลองในพื้นที่จริงแปลว่าอะไร “ผมยกตัวอย่างว่า ที่เขาบอกว่ามีมอเตอร์ไซค์ 3 คัน ชี้ไปแล้วเจอ 1 คัน เขาก็นับว่าอันนี้เจอ คิดเป็นสัดส่วนเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ คำถามก็คือว่า ผมไม่ทราบว่าเขาตรวจอีก 2 คันหรือเปล่า ถ้าทั้ง 3 คันมีอยู่เขาชี้ไปทางไหนมันก็เจอ แต่เขาไม่ได้ดูว่าอีก 2 คันมันมีหรือไม่ เพราะฉะนั้น นักวิทยาศาสตร์เขาก็อธิบายว่าในพื้นที่ซึ่งมีสารหรือวัสดุที่ต้องการจะหาเยอะ การที่มีเครื่องที่อาจจะไม่ได้ใช้งานจริงจะพบในสัดส่วนที่สูง นี่เป็นตัวอย่างในสิ่งที่ต้องไปทำความเข้าใจกันเพราะถ้าเขาบอกว่ามี 3 คันชี้ไปแล้ว 2 คันก็ไม่มี เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา อันนี้ก็ต้องมาทบทวน แต่ประเด็นที่ไปทดลองในพื้นที่ก็ต้องถามว่า มันควบคุมปัจจัยที่จะทดสอบได้หรือไม่ การที่เจอหรือไม่เจอในพื้นที่จริงจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ในการที่จะพิสูจน์ว่ามันใช้ได้ดีกว่า การสุ่มหรือไม่” นายกฯ กล่าว เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าในระดับปฏิบัติจะปฎิบัติตามนโยบายที่รัฐวางไว้ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้บอกกับผู้บัญชาการไปแล้ว และในช่วงเช้าก็ได้บอกกับรมว.กลาโหมไปแล้วครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้น ทางกองทัพก็จะต้องเร่งไปทำความเข้าใจ และกระทรวงวิทย์ก็เช่นกันต้องเร่งทำความเข้าใจ และในเรื่องการแกะเครื่องพิสูจน์ นั้นในต่างประเทศเองก็มีการแกะแล้ว ผู้ที่ใช้งานก็ไม่สามารถตอบได้ว่าที่คิดว่าใช้ได้ ใช้ได้เพราะอะไร “แต่มันก็ธรรมดา สำหรับคนที่พอมีเครื่องมือ ที่บอกว่าใช้เทคโนโลยี เราก็ใช้กันเยอะ และเราก็ไม่รู้ว่ามันใช้งานด้วยวิธีการอะไร เพราะฉะนั้นเหตุผลนี้เป็นเหตุผลตอนที่เราออกแบบ ทดลองในกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็เอากันว่าไม่ต้องมาเถียงกันว่าใช้งานได้เพราะอะไร เอาว่าใช้งานได้หรือไม่ บริษัทนี้ก็เพิ่งไปค้นพบว่าเคยผลิตอุปกรณ์คล้ายๆอย่างนี้ ก็ไปตรวจสอบที่สหรัฐฯผลออกมาแบบนี้” นายกฯ กล่าว เมื่อถามว่าแต่เจ้าหน้าที่ในภาคใต้บอกว่า ยังจะใช้ GT200 ต่อไปนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็จะมีความเสี่ยง ประการแรกคือถ้าไปตรวจสอบว่ามีวัตถุระเบิดหรือไม่ และหากไม่พบ อาจจะไปสร้างความเข้าใจผิดว่าจุดนั้นมันปลอดภัย ตนไม่อยากให้มันเกิดเหตุ เพราะก่อนหน้านี้มีเหตุที่เกิดขึ้นแต่เราไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร มีการพูดกันได้ว่าเครื่องนี้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้เมื่อพิสูจน์แล้วพบว่าไม่ใช่เช่นนั้น แล้วยังมีการไปทำแล้วเกิดเหตุขึ้นมา ความรับผิดชอบจะตกอยู่กับเจ้าหน้าที่และความเสียหายก็จะเกิด และหากไปใช้กับตัวบุคคลก็จะเกิดการโต้แย้ง และรวมถึงเรื่องการละเมิดสิทธิ ดังนั้น สิ่งที่มอบไปกับ รมว.กลาโหมนั้น คือเรื่องให้เร่งคิดถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดเยไม่ใช้เครื่องมือ เมื่อถามว่า ทำไมสัญญาที่ทำไว้กับทางบริษัทจึงไม่สามารถผ่าเครื่องพิสูจน์ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ที่อื่นมีการเปิดเครื่องออกมา และตัวคำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ว่า เทคโนโลยีหรือกลไกตัวไหนที่ทำให้ค้นพบ วัสดุนั้นมันไม่มีคำตอบ และถ้าจะทดสอบก็สามารถทำได้ เพราะตนก็จะดำเนินการให้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากทางบริษัทฯอย่างแน่นอน ว่าไม่เป็นไปตามสเปกที่ระบุไว้ ส่วนที่มีการอ้างสัญญาว่าถ้ามีการแกะเครื่องออกมาทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบนั้น เราก็ไม่ต้องให้บริษัทฯ มารับผิดชอบเครื่องที่เปิดพิสูจน์ เรามีตั้งหลายร้อยเครื่อง แต่ในต่างประเทศเขาก็เปิดเครื่องกันออกมาแล้ว แต่ข้อถกเถียงก็ไม่จบในเรื่องการใช้ได้และใช้ไม่ได้ เพราะความรู้เรื่องนี้มันจะไม่ชัดเจน บริษัทก็อ้างได้ว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใช้ได้เพราะอะไร เพราะฉะนั้น หลักการทดสอบที่เป็นอยู่และต่างประเทศก็ใช้ก็เป็นหลักการเดียว กับที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ดำเนินการไปว่าการมีหรือไม่มีเครื่องมือมีความ แตกต่างและมีนัยยะสำคัญทางสถิติหรือไม่ ซึ่งผลการทดสอบคำตอบคือไม่มี เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมบอกกับนายกฯ หรือไม่ว่าจะใช้วิธีการหรือรูปแบบใดหลังไม่มีการใช้เครื่องจีที 200 นายกฯ กล่าวว่า เขาจะต้องไปดำเนินการ วันนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คุ้นกับการมีเครื่องจีที 200 มานานพอสมควร และยังมีความเชื่อมั่นว่าใช้ได้ เมื่อถามว่าเว็ปไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องจีที 200 เขียนบทความว่าการทดสอบของ ประเทศไทยไม่น่าเชื่อถือ นายกฯ กล่าวว่า เขาอ้างด้วยว่ามีการทดสอบที่อื่นก็ไม่ทราบว่ามีที่ไหนอ้างอิง เวลานี้ความจริงแล้วบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายจะต้องทำหน้าที่ ถ้าเขายังยืนยันว่าถูกต้อง เมื่อถามว่าค่าเสียหายที่ควรจะชดเชยมีจำนวนเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ยังได้หารือรายละเอียดลึกไปถึงจุดนั้น ต้องมารวบรวมข้อมูลก่อน ส่วนจะเรียกค่าเสียหายจากส่วนไหนบ้างทั้งตัวบริษัทผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายนั้นคงต้องมาดูในข้อกฎหมายก่อน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการจัดซื้อเครื่องจีที 200 ว่า มีการดำเนินการมาหลายปีต่อเนื่อง และหลักของการจัดซื้อก็มีการระบุความต้องการเฉพาะในพื้นที่ก็จะดำเนินการจัด ซื้อด้วยวิธีพิเศษตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่าถ้าส่อการทุจริตจะดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องมีการรายงานผลสรุปมาก่อน เพราะเราจะไม่ทราบจนกว่าจะเห็นที่มาทีไป จึงจะพิจารณาได้ ส่วนองค์กรอิสระคือสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นั้นเขาก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า ในการทำหนังสือถึงสถานทูตอังกฤษเวลานี้ไปถึงไหนแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำ เพราะตนต้องดูในรายละเอียดทั้งหมดก่อนว่าการติดต่อต้องผ่านใคร เอกสารที่บริษัทฯมานำเสนอนั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งมีอะไรบ้างที่อังกฤษต้องช่วยเรา เพราะเป็นบริษัทในประเทศของเขาที่ส่งออกมาขายให้เรา วันนี้ต้องรอรายงานจากทั้งฝ่ายกองทัพ, ป.ป.ส. ,กรมศุลกากร และหน่วยงานที่ซื้อ เมื่อถามว่าอังกฤษควรจะช่วยเหลือไทยอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้อังกฤษก็มีการดำเนินคดีกับบริษัทฯ อยู่ ก็อาจเชื่อมโยงกันได้ว่าถ้ามีการเรียกร้องค่าเสียหายอาจจะต้องเอาข้อมูลมาแบ่งปันกัน เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายเช่นเราก็คงมีการดำเนินการโดยดูข้อกฎหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น