วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มาบตาพุด ... ถังขยะอุตสาหกรรมแห่งชาติ

ใบปลิวเก่าๆ เมื่อ ปี 2545
มนุษย์ไม่ได้สร้างโลกแต่มนุษย์กำลังทำลายล้างโลก แล้วเสแสร้งทำตัวเป็นธรรมชาติ แทนดาวหาง แทนอุกาบาต ที่ไม่มีหูมีตามีสมองคิด นักพัฒนาอุตสาหกรรม พูดแก้ต่างว่า “สภาวะของโลกย่อมเปลี่ยนไป เพราะความต้องการของมนุษย์“ นี้ก้อแสดงว่าความเจริญแห่งมวลมนุษย์ กำลังทำลายบ้านดาวดวงสุดท้ายที่น่าอยู่ที่สุดในมหาจักรวาลนี้ มนุษย์ไม่มีความจำเป็นต้องเสาะแสวงหาโลกใหม่ โดยอ้างว่าทรัพย์กรไม่พอ เพราะปัจจุบันยังเกิดปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำทั่วโลก แสดงว่ามนุษย์ผลิตอาหารได้เกินความต้องการจริงอย่างนั้นหรือ มนุษย์ใช้ทุกอย่างอย่างสิ้นเปลือง คิดค้นวัสดุต่างๆ จากสารต่างๆที่มีปัญหาแก่สภาวะแวดล้อม แล้วโดยการผลิต-ใช้- ทิ้ง-ผลิต-ใช้-ทิ้ง-สิ่งที่ปลดปล่อยออกมาจากขบวนการผลิต ปนเปื้อนไปในดิน-น้ำแล้วก้ออากาศที่อยู่รอบๆตัวเรา อีกหน่อยก้อจะเอาซากเถ้าเหล่านี้ ไปสร้างบ้าน (เพราะมีการนำเถ้าถ่านหินมาผลิตเป็นวัสดุก่อสร้างได้…. ฦ ) ทางกลุ่มมิได้ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับความเจริญของชาติ แต่เป็นปรปักษ์กับการทำลายสภาวะแวดล้อม รักษาไว้ซึ่งสภาวะแวดล้อมที่ดี เพื่อความเป็นอยู่ของพวกเรา ลูก-หลานของเรา และเพื่อลูกของหลานเรา รวมทั้งมวลสรรพชีวิตต่างๆ ที่ร่วมกันอยู่ในโลกใบนี้ ถึงเวลาหรือยังที่ภาครัฐต้องตัดสินใจ…ประกาศให้จังหวัดระยองเป็นเขตมลพิษเสรี โรงงานขนาดใหญ่-น้อยเกือบ 1,500 โรง โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกลาง 4-5 แห่ง กำลังจะมีโรงไฟฟ้าใหญ่ขนาด 1,500 เม็กกะวัตต์ อีกหนึ่งแห่ง พร้อมกับการสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องขึ้นอีกมากมาย โดยลดต้นทุนค่าขนส่งสารตั้งต้นที่ผลิตโดยโรงงานที่มาบตาพุด 30 ปีข้างหน้าแถบภาคตะวันออกของประเทศ ก้อจะมีมลพิษมากที่สุดในเอเซีย หรือของโลก การที่จะตั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มาบตาพุด ก้อไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะคงไม่มีใครประท้วง สภาวะแวดล้อมไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะก้ออยู่ก้อเป็นตามภาวะแวดล้อมที่ไม่ดีมานานจนชาชินแล้ว (โรงเรียนก้อย้ายไปไกลแล้ว) ไม่ได้ทำลายวิถีชีวิตชาวบ้านมีก้อแต่จะทำให้ชาวบ้านค้าได้ขายดีขึ้น มีการก่อสร้าง คนมีงานทำ นายทุนที่จะมาสร้างโรงงานก้อจะได้เลิกวิตกเรื่องพลังงาน… แต่สิ่งต่างๆที่ดูเหมือนจะสวนทางก้อคือ การพัฒนาการท่องเที่ยว กับการอยู่-การกิน-ทะเล-ท้องฟ้า-ธรรมชาติ-ผลไม้-อาหารทะเล-พักตากอากาศ ทั้งๆที่ทุกวันนี้มีมลพิษปนเปื้อนไปทั่ว ไม่เฉพาะเหตุที่เกิดแก่อากาศ น้ำดิบในขบวนการผลิตประปาปนเปื้อสารเคมี มีปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงอ่างเก็บน้ำที่ประชาชนต้องใช้ดื่ม-กิน คนที่ระยองไม่เฉพาะต้องเสี่ยงจากอากาศเสีย แต่ยังต้องเผชิญสารปนเปื้อน มาทางอาหารจากทะเล จากน้ำดื่ม-น้ำใช้ รวมทั้งปนเปื้อนจากสารแช่ผลไม้อีก ทุกแห่งในประเทศไทย กลัวจะเกิดแบบมาบตาพุด (เพราะทุกคนรู้ว่าวันหนึ่งจะต้องทนยืนตาปริบๆพูดไม่ได้ เพราะยังต้องหากินขายของให้โรงงาน หากิน-หาประโยชน์ทั้งทางตรงทางอ้อมอย่างเลี่ยงไม่ได้ อะไรจะเกิดก้อต้องเกิด แบบนั้น…ฦ) เอาเถอะใครคิดอย่างไร ก้อช่างเถิด จะสร้างก้อสร้าง…ไม่มีใครห้ามพระเดชพระคุณท่านได้ คงไม่มีชาวมาบตาพุด-ระยองคนไหนไม่เสียสละเพื่อความมั่นคงสถาพรทางพลังงานของชาติ แต่อยากให้ฉุกคิดถึงขยะนอกถังที่มันปนเปื้อนมาในดิน-อากาศ-น้ำ แล้วก้ออาหารจากทะเล รวมไปถึงพืชผัก ผลไม้ ที่คนมาเที่ยวระยองต้องมารับกลับไป ชาวมาบตาพุด-ระยอง ทนได้ แล้วทราบมานานแล้วนะว่าที่นี่…เป็น ถังขยะอุตสาหกรรมแห่งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น