วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตามไปดู ปตท. ที่อ้างว่า เป็นรัฐวิสาหกิจ เวลาจะให้ดำเนินการ ตรวจสอบความเสี่ยง

ปตท.ทุ่ม1ล้านล.เน้นพลังงานใหม่ เทงบลงทุน50%ไปต่างประเทศ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2553 23:52 น.
ปตท.ปรับงบลงทุนทั้งเครือ 5 ปีข้างหน้า (2554-2558) แตะ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ขยับเพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่ลงทุน 8-9 แสนล้านบาท เผยเทงบการลงทุน 50% ไปต่างประเทศ เน้นธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อเสาะแสวงหาพลังงานใหม่ ส่วนงบลงทุนเฉพาะปตท. 5ปี ไม่เกิน 3แสนล้านบาท นายเทวินทร์ วงษ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ทบทวนปรับเพิ่มวงเงินการลงทุนในกลุ่มปตท. ตามแผน 5ปีข้างหน้า (2554-2558) ขยับขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาท จากเดิมวางงบลงทุนไว้ 8-9 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการรวมงบการลงทุนตามแผนการเติบโตธุรกิจ (Growth Plan) เป็นครั้งแรก จากเดิมที่ คาดจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้ งบลงทุนของกลุ่มปตท.ครั้งนี้จะมีการจัดแบ่ง 2 รูปแบบเป็นครั้งแรก กล่าวคือ งบลงทุนในโครงการที่มีความชัดเจนอยู่แล้ว (Commit) และงบลงทุนโครงการเป้าหมายตามแผนเติบโตทางธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งจะทำให้วงเงินการลงทุนโดยรวมของกลุ่มปตท.ขยับสูงขึ้นเป็นระดับประมาณ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ขณะที่งบการลงทุนเฉพาะปตท. 5ปีข้างหน้าขยับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 3 แสนล้านบาท จากเดิมที่เคยวางงบการลงทุนไว้ 2.3 แสนล้านบาท เป็นการเตรียมเงินลงทุนสำหรับโครงการใหม่ อาทิ โครงการเหมืองถ่านหิน โรงไฟฟ้า และ FLNG นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งบการลงทุนของเครือปตท. ใน 5 ปีข้างหน้านี้ จะปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก ซึ่งการลงทุนระยะกลาง-ยาวจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศถึง 50% ของวงเงินลงทุนรวมจะเน้นการลงทุนในธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่จะเห็นแหล่งปิโตรเลียมที่มีการผลิตยากขึ้น (Unconventional) เช่น การผลิตFLNG เพื่อหาแหล่งพลังงานป้อนประเทศไทยที่มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. จะโฟกัสการลงทุนในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย พม่า และแอลจีเรีย ซึ่งการลงทุนแหล่งปิโตรเลียมใหม่จะเป็นแหล่งที่มีการผลิตที่ยากขึ้น (Unconventional) เช่น การผลิต FLNG เพราะต้องยอมรับว่าแหล่งน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติที่ผลิตแบบปกติ (Conventional) มีผู้ลงทุนไปแล้ว โดยปตท.สผ.จะพิจารณาทั้งเรื่องการเจรจาซื้อกิจการ หรือการเข้าไปร่วมทุน ซึ่งแล้วแต่ความเหมาะสม สำหรับโครงการที่ปตท.สผ.เข้าไปลงทุนแล้วในออสเตรเลีย คือ แหล่งมอนทารา คาดว่าจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ไตรมาส 3/2554 มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 4 หมื่นบาร์เรล/วัน ส่วนโครงการท่าเทียบเรือของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี ของปตท.นั้น ยืนยันว่าไม่ติดปัญหา 11 ประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรง เนื่องจากวิธีการวัดหน้าท่าของกรมเจ้าท่าพบว่าไม่เกินตามข้อกำหนด ส่งผลให้โครงการนี้ยังเดินหน้าตามแผนที่กำหนดไว้ โดยปีหน้าจะมีการนำเข้า LNG ในตลาดจรจากต่างประเทศเข้ามาประมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นการนำเข้าจากการ์ต้า และออสเตรเลีย เป็นต้น นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้ยอดการใช้น้ำมันของประเทศลดลง เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก บางพื้นที่ไม่สามารถเดินรถได้ ย่อมส่งผลให้ยอดขายน้ำมันปตท.ในช่วงนี้ลดลง แต่เชื่อว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงนี้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวน ซึ่งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 80 เหรียญ/บาร์เรล และราคาน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 90เหรียญเศษ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับราคาที่ใกล้เคียงในช่วงที่บริษัทน้ำมันได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกไปก่อนหน้านี้ ทำให้ค่าการตลาดอยู่ที่ 1 บาทกว่า/ลิตร ดังนั้น แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นมาในช่วง 1-2 วันนี้ก็คงยังไม่มีการปรับราคาขายปลีกแต่อย่างใด ส่วนปัญหาพายุดีเปรสชั่นและน้ำท่วมในภาคใต้ ไม่มีผลกระทบต่อการผลิตก๊าซในอ่าวไทย นายประเสริฐ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)เตรียมอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 5 แสนล้านเหรียญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ทำให้ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 80-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เชื่อว่าจะไม่ถึง 100 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำมันของโลกสูงกว่าความต้องการใช้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น