วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ญี่ปุ่น ยันไม่ทิ้งฐานการลงทุนในไทย

ปธ.เจโทร เผยผลสำรวจความเห็น นลท.ญี่ปุ่น ยันไม่ทิ้งฐานการลงทุนในไทย แนะรัฐบาลปรับปรุงภาษี ศุลภากร และนโยบายชัดเจนมาบตาพุด พร้อมกระตุ้นต่างชาติเข้าลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ห่วงการเมืองเพิ่มความเสี่ยงในอนาคต
นายมูเนโนริ ยามาดะ ประธานองค์ส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) หรือ JCC เปิดเผยผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทย ประจำครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งมีการสำรวจระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 ถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2553 จำนวน 375 บริษัท โดยพบว่า สภาพธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2553 ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2552 และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากยอดขายและกำไรของธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น โดยเศรษฐกิจได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ปัญหาการชุมนุมทางการเมือง เชื่อว่า มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันน้อยมาก แต่ผู้ประกอบการมีความเป็นห่วงว่า ผลกระทบอาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นมองการเมืองมีความเสี่ยงต่อการลงทุนเพิ่มขึ้น “ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ซึ่งผู้ประกอบการ 67% เชื่อว่าอาจจะมีผลกระทบต่อการลงทุนในอนาคต แต่ไทยยังจัดว่าเป็นประเทศที่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค” ประธานเจโทร ยังเชื่อว่า ภาวะการส่งออกของไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยอินเดีย และอาเซียนจะเป็นตลาดส่งออกสำคัญ ขณะที่ตลาดยุโรปมีแนวโน้มลดลง เพราะวิกฤตการเงินที่ส่งผลต่อการบริโภค สำหรับข้อเรียกร้องผู้ประกอบการญี่ปุ่นต่อรัฐบาลไทยในเรื่องการพัฒนาและปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทางด้านศุลกากร และภาษี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประธานเจโทร ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะไม่ทิ้งฐานการลงทุนไปจากประเทศไทย อย่างแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังมีความกังวลปัญหามาบตาพุดที่ยังไม่มีความชัดเจนจากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนญี่ปุ่นในอนาคต โดยต้องการให้ รัฐบาล เร่งแก้ไขต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนโดยเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น